ใครๆ ก็ฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง และ “ร้านกาแฟ” เป็นหนึ่งในธุรกิจที่คนรุ่นใหม่สมัยนี้นิยมลงทุนเปิดกัน แน่นอนว่า “คุณภาพ” เป็นหัวใจสำคัญที่เจ้าของธุรกิจต้องเอาใจใส่ ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพวัตถุดิบ คุณภาพสินค้าและบริการ
ขณะเดียวกันยังมีอีกหนึ่งมิติที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่ากัน คือ “ชื่อร้าน” หรือ “แบรนด์” ยิ่งทุกวันนี้เกิดร้านกาแฟขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรายใหญ่ กลาง และรายเล็ก แห่เปิดกันทั่วทุกถนน ดังนั้น ชื่อร้านจึงไม่ใช่แค่ว่าตั้งชื่ออะไรก็ได้ตามใจตัวเอง แต่ “ชื่อร้านที่ดี” ต้องบ่งบอกคอนเซ็ปต์ หรือตัวตนของร้าน มีความหมาย และแตกต่าง เพื่อสร้างการจดจำให้กับลูกค้า
Sunny Bonnell, ผู้ร่วมก่อตั้ง และผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์, Motto Agency เป็นเอเยนซี่ด้านแบรนด์ดิ้งและดีไซน์ ได้เผยวิธีการตั้งชื่อร้านกาแฟไว้อย่างน่าสนใจว่า
– เจ้าของร้านควรเริ่มต้นถามตัวเอง และระดมความคิดเห็นกันในทีมว่าอยากให้ร้านมี “บุคลิก” หรือ “คุณลักษณะ” และ “จุดยืน” ของร้านอย่างไร
– การตั้งชื่อร้านต้องบ่งบอก “เอกลักษณ์” เพื่อสะท้อนจุดยืนและบุคลิกของร้าน
– ค้นหาแรงบันดาลใจในการตั้งชื่อ โดยทำการลิสต์รายชื่อจากสิ่งต่างๆ รอบตัว เพลง ภาพยนตร์ เรื่องราวในประวัติศาสตร์ ฯลฯ
– การตั้งชื่อร้าน แบ่งออกเป็น 3 กลุ่มหลัก คือ 1. ตั้งชื่อตามฟังก์ชั่น เช่น ชื่อตามประเภทธุรกิจ ชื่อตามสินค้าและบริการ เป็นวิธีการตั้งชื่อที่ทำให้ลูกค้าเข้าใจได้ง่ายว่าเรากำลังเปิดร้านขายอะไร 2. ตั้งชื่อจากประสบการณ์ ไม่ว่าจะเป็นสิ่งที่ตนเองประสบพบเจอ หรือเป็นประสบการณ์ร่วมของคนในสังคม เพื่อบอกเล่าเรื่องราว (Storytelling) และเชื่อมโยงประสบการณ์นั้นๆ ให้กับลูกค้า 3. ตั้งชื่อที่สื่อถึงอารมณ์ ความรู้สึก หรือความทรงจำ
– จากแนวทางการตั้งชื่อ 3 กลุ่มหลักข้างต้น ชื่อร้านหรือแบรนด์ที่ใส่ไอเดีย ความคิดสร้างสรรค์ ต้องคำนึงถึง 1. เป็นชื่อที่มีความหมายในเชิงบวก ไม่น่าเบื่อ 2. ง่ายต่อการออกเสียงและสะกดคำ 3. มี “โลโก้” หรือ “ภาพ” เป็นองค์ประกอบ และ 4. แบรนด์ ต้องมีความโดดเด่น มีความหมาย มีความเป็นต้นฉบับและมีความแตกต่างมากเพียงพอ เพื่อปกป้องแบรนด์ หากต้องเจอกับการแข่งขัน หรือการลอกเลียนแบบ
แนวทางการตั้งชื่อร้านกาแฟนี้ สามารถนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจอื่นได้เช่นกัน…
Credit Photo : NUMBER 24 – Authorized Shutterstock Partner in Thailand