เป็นบิ๊กดีลของวงการธุรกิจช่วงท้ายปี เมื่อวันที่ 24 พฤศจิกายน หลังจากสถานการณ์สื่อสิ่งพิมพ์อยู่ในภาวะวิกฤติเมื่อสื่อดิจิตอลเข้ามามีบทบาทสำคัญของผู้คน สื่อสิ่งพิมพ์ก็ทะยอยปิดตัวกันไปหลายหัวหลายฉบับ ล่าสุดบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง จำกัด (มหาชน) (Amarin Printing and Publishing) ต่อลมหายใจด้วยการขายหุ้นให้กับ ฐาปน และ ปณต สิริวัฒนภักดี เจ้าของอาณาจักรเบียร์ช้าง หรือ ไทยเบฟเวอเรจ (กลุ่มเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี) ในจำนวน 200 ล้านหุุ้น หุ้นละ 4.25 บาท รวมเป็นเงิน 850 ล้านบาท คิดเป็นถือหุ้น ร้อยละ 47.62 พร้อมขอผ่อนผันการทำคำเสนอซื้อ นำเงินใช้ดำเนินธุรกิจทีวีดิจิทัล -ชำระหนี้เงินกู้สถาบันการเงิน
ทั้งนี้ หลังการเข้าซื้อจะทำให้ฐาปน-ปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 47.62% ทั้งนี้ ราคาเสนอขายดังกล่าวเป็นราคาที่ส่วนลดมากกว่า 10% ของราคาถัวเฉลี่ยของตลาดที่ 7.47 บาท ทำให้ทุนจดทะเบียนทั้งหมดเป็น 419,999 ล้านบาท จาก 219,999 ล้านบาท เป็น
ทั้งนี้อมรินทร์พริ้นติ้งฯ ประสบภาวะผลประกอบการขาดทุนจากการดำเนินงานในช่วง 2 –3 ปี ที่ผ่านมาซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงินที่ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ บริษัทฯ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินทุนที่จะได้รับจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้ เพื่อการลงทุนเพิ่มเติมในธุรกิจทีวีดิจิทัลที่อยู่ในช่วงของการเริ่มต้นธุรกิจซึ่งมีต้นทุนการดำเนินการที่สูง โดยใช้สำหรับการชำระค่าใบอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับการให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิทัล การชำระค่าบริการโครงข่ายทีวีดิจิทัลรายเดือน การชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนที่ใช้ในดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ มีแผนการใช้เงินที่ได้จากการเพิ่มทุนนี้ภายในต้นปี 2561 อีกทั้งยังเผชิญหน้ากับความท้าทายในธุรกิจสิ่งพิมพ์ และอีเว้นท์ที่เชื่อมโยงกัน
แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าจับตามองน่าจะเป็นในฝั่งของกลุ่มตระกูลสิริวัฒนภักดี ว่าหลังจากเข้าถือหุ้นสื่อยักษ์ใหญ่และผู้บริหารระดับสูงทั้ง 2 คน จะเข้ามาเป็นคณะกรรมการบริหารด้วย จะต่อยอดธุรกิจสื่ออย่างไร และทำให้ธุรกิจนี้เสริมพลังของอาณาจักรทั้งในส่วนของอาหาร-เครื่องดื่ม ค้าปลีก และอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นกระเป๋าเงินหลักของครอบครัวได้อย่างไร ไปจนถึงภาพลักษณ์ของเครืออมรินทร์ซึ่งที่ผ่านมามักจะไม่ค่อยนำเสนอข่าวสารเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เท่าใดนัก
ที่ผ่านมาไทยเบฟฯ เคยชิมลางเข้าสู่ธุรกิจสื่อมาแล้ว เช่น ทศภาค ที่เข้าประมูลการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก และนำเอาสิทธิ์ทีได้นั้นมาจัดกิจกรรม แต่นั่นเป็นการลงทุนเพื่อก่อให้เกิดประโยชน์กับธุรกิจเบียร์ในขณะนั้นมากกว่า ครั้งนี้คือการก้าวเข้าสู่อาณาจักรสื่ออย่างเป็นตัว และยิ่งใหญ่ เพราะแค่ก้าวแรกก็กระชากราคาหุ้นของอมรินทร์จาก 2.20 บาท ให้ลิ่งไปอยู่ที่ 9.65 บาท หรือพุ่งขึ้นกว่า 30% แล้ว ดังนั้นคงต้องดูต่อไปว่าเจ้าสัวเจริญจะทำอย่างไรกับธุรกิจใหม่ที่ได้มา นอกจากนี้ยังต้องจับตาดูดีลในวงการสื่อรายอื่นๆ เพราะตอนนี้กำลังหนีตายจากทีวีดิจิทัลและสื่อสิ่งพิมพ์กันจ้าละหวั่น
ธุรกิจในเครือของ AMARIN มีทั้งธุรกิจสิ่งพิมพ์ ธุรกิจทีวีดิจิทัล ธุรกิจอีเว้นท์
ธุรกิจในเครือและกลุ่มเจ้าสัวเจริญ อสังหาริมทรัพย์ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์-นอนแอลกอฮอล์ อาหาร ประกันภัย เป็นต้น
ที่มา : E-Finanace , Matichon