สำหรับสถานการณ์ของดีแทค (dtac) เมื่อปีที่ผ่านดูไม่ค่อยสดใสนักจากการแถลงผลประกอบการปี 2559 ทีกำไรลดลง 65% แต่สำหรับปีนี้ 2560 เดินหน้าประกาศปรับแบรนด์ Positioning ครั้งใหญ่ และทิศทางของแบรนด์ เพื่อให้มีลูกค้าใหม่เข้ามาและรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ นำทีมโดย CEO ลาร์ส นอร์ลิ่ง ทีมผู้บริหาร และ พนักงานดีแทค ภายใต้แนวคิด “FLIP IT – แค่พลิก ชีวิตก็ง่าย”พลิกข้อเสนอสินค้าและบริการโฉมใหม่ให้ผู้ใช้บริการดีแทคใช้งานง่าย สะดวกสบาย และตรงไปตรงมา ให้บริการโดยคิดจากมุมลูกค้ามาเป็นอันดับแรก
ประเดิมปรากฏการณ์ “พลิก” จากการปรับเปลี่ยนทัศนคติทั้งวิธีคิดและวิธีการทำงาน ปลุกพลังของบุคลากรภายในองค์กร ส่งต่อไปยังลูกค้า ตลอดจนวงการโทรคมนาคม เพื่อกระตุ้นให้ “พลิก” มุมมองชีวิตให้ “ง่าย” กว่าที่คิด ด้วย 4 สเต็ปการพลิก ได้แก่ 1. To be daring กล้าที่จะลอง พลิกความคิดเพื่อสร้างผลลัพธ์ที่ดีกว่า เสริมสร้าง ความกระตือรือร้นเพื่อค้นหาแนวทางการทำงานใหม่ๆ 2. To act fast ทำอย่างไว พลิกวิธีคิดให้เกิดเป็นการกระทำ สร้างการเปลี่ยนแปลงต่างๆ รอบตัวอย่างรวดเร็ว 3. To think different พลิกความคิดด้วยแง่มุมที่แตกต่าง ค้นหาความต้องการของลูกค้า แสวงหาแนวทางแก้ปัญหาที่ง่ายและตอบโจทย์มากที่สุด 4. Passion to win ตั้งใจทุ่มเททำงานให้เกินเป้าหมาย มุ่งมั่น และไม่ยอมแพ้ เพื่อให้ได้ชัยชนะในการตอบสนองความต้องการที่มากกว่า และความคาดหวังของลูกค้า
“ความคาดหวังครั้งนี้ต้องการทำให้แบรนด์น่าสนใจและมีชีวืตชีวามากขึ้น พร้อมกับทำให้ลูกค้ามีความพอใจสูงสุด เมื่อลูกค้าไร้กังวลและแฮปปี้กับการใช้งานแล้ว โอกาสสร้างรายได้อื่นๆก็จะตามมา” ลาร์ส นอร์ลิ่ง กล่าว
โดยไม้เด็ดภายใต้ Positioning ใหม่นี้ ลูกค้าดีแทค ทั้งเติมเงินและรายเดือน จะได้ “พลิก” มุมมองให้ชีวิตง่ายกว่าที่เคยทั้งสินค้าและบริการ สัมผัสกับความง่าย และตรงไปตรงมาในทุกการใช้งาน ในแพ็คเกจใหม่ “Go No Limit” และซิมใหม่ “Go เพลิน” (แพ็คเกจอื่นๆก็ยังมีให้บริการปกติ)
1. เน็ตไม่ลดสปีด โดยไม่มี FUP อีกต่อไป ขณะที่ค่ายอื่นสปีดจะลดลง (สำหรับผู้ที่นำไปใช้เชิงพาณิชย์ หรือ ผิดวัตุถประสงค์ จะมีบทลงโทษ)
2. เน็ตไม่มีวันหมด เพราะได้เน็ตไม่อั้น ขณะที่ค่ายอื่นใช้ตามโควต้า
3. โทรฟรีทั้งเครือข่าย ตลอด 24 ชม. ไม่อั้น ไม่มีเงื่อนไข ขณะที่ค่ายอื่นโทรได้เฉพาะเบอร์คู่ หรือ บางช่วงเวลา
“การ “พลิก” ครั้งนี้เนื่องจากพบว่าอุตสาหกรรมในประเทศไทยยังตามผู้บริโภคไม่ทัน ยังไม่ตอบโจทย์ลูกค้าอย่างแท้จริง ทำการตลาดหรือโปรดักซ์ที่ผ่านมาเป็นแบบแฟนซี ดีแทค จึงกล้าที่จะเปลี่ยนครั้งใหญ่ ” สิทธิโชค นพชินบุตร รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มการตลาด เสริม
นอกจากนี้ยังมี เดินหน้าพัฒนา Super 4G ด้วยการขยายจำนวนสถานีฐาน และโครงข่ายภายในอาคารเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกอำเภอทั่วประเทศไทย เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้เน็ตที่ลื่นที่สุดบนคลื่น 1800MHz ที่กว้างที่สุดในประเทศไทยถึง20MHz พร้อมนำเสนอบริการที่พลิกทุกข้อจำกัดในการใช้งานด้วย WiFi Calling สามารถโทรกลับหรือรับสายผ่านสัญญาณ WiFi จากทั่วทุกมุมโลก เหมือนอยู่ไทย ในอัตราค่าบริการตามแพ็กเกจเดิม ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่ม จากเดิม WiFi Calling สามารถรองรับเฉพาะเครื่องไฮเอนด์ ดีแทค จึงนำเสนอบริการใหม่กับแอพพลิเคชั่น dtacWiFi Calling เพื่อให้ลูกค้าที่ใช้เครื่องนอกเหนือจากรุ่นดังกล่าวได้มีประสบการณ์อีกขั้นของเทคโนโลยี 4G ด้วยกัน โดยพร้อมจะให้ลูกค้าดาวน์โหลดมาใช้งานได้บนมือถือทุกรุ่น ทุกยี่ห้อได้เร็วๆ นี้
สำหรับระบบ CRM ดีแทค รีวอร์ด ที่ได้ปรับกลยุทธ์ดูแลลูกค้าโฉมใหม่ มอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้ามากขึ้น เพิ่มกลุ่มลูกค้าฐานใหญ่ เริ่มตั้งแต่กลุ่มลูกค้า Silver กลุ่มลูกค้า Gold กลุ่มลูกค้า Blue Member พร้อมเพิ่มดีกรีประสบการณ์แห่งความสุขให้ลูกค้า กับการขยายพันธมิตรที่พร้อมมอบสิทธิพิเศษให้ลูกค้าครอบคลุมทั่วประเทศกว่า 20,000 แห่งทั่วประเทศ พร้อมชูการสร้างนวัตกรรมและประสบการณ์ใหม่ๆ ร่วมกับ partner เพื่อให้ลูกค้าได้รับความสะดวก ได้ใช้สิทธิพิเศษได้ง่าย ๆ ในทุก ๆ วัน
สุดท้ายเพื่อให้การสื่อสารทางการตลาดไปยังกลุ่มเป้าหมายระดับแมส จึงดึงตัว น้อง นาย-ณภัทร เสียงสมบุญ มาเคียงข้างกับแม่ อั้ม พัชราภา ที่เพิ่งเปิดตัวไปเป็นตัวแทนของ ดีแทค เน็ตเวิร์ก มาช่วยเสริมแม่เหล็กที่จะสะกดให้หลายคนย้ายค่ายมาดีแทค ซึ่งน่าจะทำให้สาวใหญ่สาวน้อยคงใจสั่นกันอย่างแน่นอน