HomeSponsoredยลโฉมออฟฟิศในฝันมนุษย์เงินเดือน “GAYSORN TOWER” ตึกออฟฟิศสุดชิค สไตล์รีสอร์ทแห่งแรกในไทย

ยลโฉมออฟฟิศในฝันมนุษย์เงินเดือน “GAYSORN TOWER” ตึกออฟฟิศสุดชิค สไตล์รีสอร์ทแห่งแรกในไทย

แชร์ :

ในแต่ละวันหนุ่มสาวชาวออฟฟิศใช้เวลาเฉลี่ย 8  – 10 ชั่วโมงอยู่ในบริษัท จดจ่ออยู่กับกองเอกสาร หรือไม่ก็หน้าคอมพิวเตอร์ เวลาอยากผ่อนคลายทำได้แค่พักสายตาชั่วขณะ หรือเดินไปชงกาแฟ แล้วก็กลับมาที่โต๊ะ ทำงานวนไป นี่คือสภาพแวดล้อมที่เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเผชิญทุกวัน ทุกปี นานวันเข้าทั้งการทำงาน และบรรยากาศในออฟฟิศที่มองไปทางไหนก็มีแต่กำแพง ดูอึมครึมและน่าอึดอัด ได้บั่นทอนสุขภาพกายและใจ จนกลายเป็นความน่าเบื่อหน่ายและความเครียดโดยไม่รู้ตัว !!

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

แต่แล้วการเกิดขึ้นของอาคารออฟฟิศให้เช่าแห่งใหม่ GAYSORN TOWER” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของอาณาจักร Gaysorn Village” ของกลุ่มเกษรพร็อพเพอร์ตี้ ก็ได้ปฏิวัติการพัฒนาอาคารสำนักงานให้เช่าในเมืองไทย จากแบบเดิมๆ ที่ดูน่าเบื่อหน่าย ให้กลายเป็นความชิคและชิล ในบรรยากาศสไตล์รีสอร์ท 5 ดาวใจกลางกรุง

ทำไมจึงชิคและชิลจนทำให้ชาวออฟฟิศต่างร้องขอ อยากให้บริษัทย้ายออฟฟิศมาตั้งที่นี่ มาดูกัน…

ฉีกภาพลักษณ์เดิมๆของออฟฟิศให้เช่า ไปพร้อมๆกับการเปลี่ยนภาพลักษณ์ของเกษร

หลายคนคงได้เห็นข่าวการเปิดตัว Gaysorn Village” ของกลุ่มเกษรพร็อพเพอร์ตี้กันมาบ้างแล้ว ซึ่งถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่เมื่อผืนดินใจกลางย่านราชประสงค์ถูกเนรมิตให้กลายเป็นอาณาจักรแห่งไลฟ์สไตล์วิลเลจที่มีเอกลักษณ์และเปี่ยมด้วยรสนิยม บนพื้นที่กว่า 180,000 ตารางเมตร โดยรวม 3 ตึกไว้ด้วยกัน ได้แก่ Gaysorn Tower, ศูนย์การค้าเกษรเดิม และอัมรินทร์พลาซ่า โดยใช้ทางเดิน “เกษรวอล์ค” เชื่อมทุกตึกถึงกันอย่างไร้รอยต่อ

เมื่อทุกองค์ประกอบมารวมกัน จะทำให้อาณาจักรใหม่นี้มีความคึกคักและมีไดนามิคมากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งถือเป็นการฉีกภาพลักษณ์เก่าๆที่เกษรเคยเป็น โดยเฉพาะสมัยที่ยังมีแค่ “เกษรพลาซ่า” ซึ่งใครๆก็รู้ว่าศูนย์การค้าแห่งนี้ทราฟฟิคค่อนข้างบางตา เนื่องจากจับตลาด Super Luxury จนทำให้มีคนเดินเฉพาะกลุ่ม แต่การเพิ่มจิ๊กซอว์สำคัญอย่าง Gaysorn Tower” จะกลายเป็นจุดเปลี่ยนที่พลิกให้อาณาจักรนี้มีทราฟฟิคและความคึกคักจาก “กลุ่มคนระดับกลาง”  เพราะเมื่อ “Gaysorn Tower” เปิดให้บริการ จะกลายเป็นศูนย์รวมบริษัทชั้นนำในประเทศไทย และเป็นคอมมิวนิตี้ชาวออฟฟิศแห่งใหญ่แห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ

ทำไมถึงกล้าพูดว่า “บริษัทชั้นนำ”?? เพราะอาคารสำนักงานให้เช่าแห่งนี้เน้นดึงดูดบริษัทที่เลือกเช่าออฟฟิศโดยคำนึงถึง “คุณภาพชีวิตและบรรยากาศในการทำงานของบุคลากร” มากกว่าจะเน้น “ปัจจัยด้านราคา”  ทำให้เป็นเหมือนการกรองมาแล้วชั้นนึงว่าบริษัทที่ “ยอมจ่ายเพื่อสิ่งที่ดีกว่า” เหล่านั้นย่อมไม่ธรรมดา

ขณะเดียวกันคนที่จะทำงานในบริษัทที่ “ไม่ธรรมดา” เหล่านั้นได้ ก็ต้องมีความเก๋ในระดับหนึ่งเช่นกัน เมื่อคนที่มีความเก๋หลายพันคนมารวมกัน ก็เกิดเป็นคอมมิวนิตี้ที่มีความเก๋ และเป็นตัวสร้างไดนามิคที่มีคุณภาพให้กับ “เกษรวิลเลจ” ซึ่งจะดึงดูดให้คนที่มีไลฟ์สไตล์เก๋ๆเหมือนกัน อยากเข้ามาสัมผัสประสบการณ์เปี่ยมรสนิยมในวิลเลจแห่งนี้

เจาะลึก 4 ความแตกต่างของ “GAYSORN TOWER”

ในการพัฒนาตึก Gaysorn Tower” ขนาด 30 ชั้น ที่มีพื้นที่ใช้สอยทั้งอาคารประมาณ 63,000 ตารางเมตร  นั้น “กลุ่มเกษร” ให้บริษัท A49 เป็นผู้รับผิดชอบด้านการออกแบบสถาปัตยกรรม โดยมีบริษัทระดับโลกอย่าง CL3 ที่เคยออกแบบ Marina Bay Sands ที่สิงคโปร์ รับผิดชอบด้านการออกแบบภายในและพื้นที่ส่วนกลาง เพื่อให้ได้อาคารที่มีความสมบูรณ์ทุกมิติ ทั้งความสวยงามและประโยชน์ใช้สอย เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนทำงานยุคใหม่ ภายใต้แนวคิด Work-Live-Play-Grow” คือถึงพร้อมทั้งการทำงาน, การใช้ชีวิต, ความผ่อนคลาย และความก้าวหน้าที่จะดำเนินไปพร้อมๆกัน ภายในตึกแห่งนี้

ในด้าน “สถาปัตยกรรม” เกษรต้องการให้ตึกใหม่นี้เป็นเหมือน “ผลงานศิลปะไทย” ที่ถูกถ่ายทอดออกมาในรูปแบบสถาปัตยกรรมร่วมสมัย ตีโจทย์เป็นคอนเซ็ปต์ “ช่างสิบหมู่” ซึ่งเป็นงานประเภทประณีตศิลป์และวิจิตรศิลป์ เพื่อให้ได้อาคารที่ทั้งงดงามและดูขลังแบบร่วมสมัยไปพร้อมๆ กัน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็น Heritage ของเกษรที่มักจะแฝงความเป็นไทยเข้าไปในสิ่งต่างๆ รอบตัวอยู่เสมอ

สำหรับ “คุณค่าในด้านประโยชน์ใช้สอยและแนวคิดการใช้พื้นที่” เป็นหัวใจสำคัญที่ทำให้ GAYSORN TOWER แตกต่างอย่างชัดเจนจากออฟฟิศให้เช่ารายอื่นๆ ในตลาด โดยสรุปออกมาเป็น 4 กลยุทธ์หลักดังนี้

1. เกษร เออร์เบิน รีสอร์ท – Gaysorn Urban Resort การออกแบบพื้นที่ส่วนกลางให้มีอารมณ์คล้ายรีสอร์ทหรูกลางเมือง โอบล้อมด้วยสวนลอยฟ้าขนาดใหญ่ เพื่อให้ผู้บริหารและคนทำงานรู้สึกผ่อนคลาย สมองปลอดโปร่งจนสามารถสร้างสรรค์ความคิดนอกกรอบและไอเดียใหม่ๆได้อย่างอิสระ

โดยในพื้นที่ดังกล่าวยังสอดแทรกด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันและใช้ได้จริง ทั้งห้องประชุมสัมมนา ห้องอาหาร และห้องสันทนาการต่างๆ  ภายใต้บรรยากาศเปิดโล่ง ไม่อึมครึมหดหู่จนไม่อยากตื่นมาทำงานเหมือนบรรยากาศออฟฟิศทั่วๆไป ซึ่งไฮไลท์ของโซนนี้คือโถงอเนกประสงค์ “Crystal Box” ที่มีกำแพงเป็นกระจกใสรอบด้าน สามารถใช้จัดอีเว้นท์หรืองานสัมมนาโดยมีวิวของกรุงเทพฯเป็นฉากหลัง  ดูเก๋ไก๋และไม่ดาษดื่นตามสไตล์เกษร

2. เกษร เออร์เบิน รีทรีต – Gaysorn Urban Retreat ชีวิตคนทำงานย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ที่จะเกิดความเครียดสะสม Gaysorn Tower จึงจัดสรรพื้นที่ขนาดใหญ่เพื่อเป็นศูนย์ให้บริการด้านบำบัดความเครียด รวมถึงสถาบันความงามและสุขภาพ ตั้งแต่ Spa & Massage จนถึงศูนย์บริการด้านสุขภาพชั้นนำที่ได้รับมาตรฐานระดับโลก สำหรับให้บริการกับทั้งผู้ที่ทำงานที่นี่และผู้มาเยี่ยมเยือนจากที่อื่นๆ เพื่อสร้างสมดุลให้กับร่างกายและจิตใจ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ “Work-Life-Balance” อันเป็นสุดยอดปรารถนาของคนทำงานทุกคน

3. มาตรฐานออฟฟิศระดับเวิลด์คลาส เกษรเลือกพลิกโฉมการออกแบบออฟฟิศ ด้วยการให้ผู้เช่าสามารถปรับเปลี่ยนและใช้ประโยชน์ได้อย่างคล่องตัว ไม่มีเสามาขวางให้เกะกะ ส่วนเพดานก็สูงถึง 2.95 เมตร และไฮไลท์สำคัญคือ “Full Height Glass Walls” หรือมุมมองผ่านกระจกพาโนราม่า เพื่อให้ผู้เช่าได้ดื่มด่ำกับวิวอันงดงามในขณะทำงาน รวมถึงการออกแบบผนังด้านนอกตึกด้วยการใช้กระจกทนทานต่อความร้อนและป้องกันพลังงานจากแสงอาทิตย์ที่จะเข้ามาภายในอาคาร จนถึงระบบถ่ายเทอากาศ ซึ่งล้วนคำนึงถึงผู้ที่อยู่อาศัยไปพร้อมๆกับช่วยโลกประหยัดพลังงาน

4. การเชื่อมต่อรอบด้าน หรือ Connectivity อีกหนึ่งจุดขายและเป็นจุดเด่นของ Gaysorn Tower คือการเชื่อมต่อไปยัง Ratchaprasong Walk หรือทางเดินลอยฟ้าที่เชื่อม 18 อาคารชั้นนำในย่านราชประสงค์รวมถึงสถานีรถไฟฟ้า BTS เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้ผู้ที่ทำงานที่นี่สามารถใช้ชีวิตคนเมืองได้อย่างคล่องตัว เพราะทางเดินนี้เชื่อมตั้งแต่แพลตินั่มมอลล์ บิ๊กซี มาจนถึง Gaysorn Village และทะลุไปฝั่งเอราวัณและอัมรินทร์ พลาซ่า

เรียกว่าอยากช็อปปิ้งของราคาย่อมเยา, ไปดินเนอร์ที่โรงแรมห้าดาว หรือแม้แต่จะสักการะเทพศักดิ์สิทธิ์ในย่านนี้ ก็สามารถเดินเท้าได้อย่างสะดวก ไม่ต้องขับรถ และไม่ต้องกลัวว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก

ถึงบรรทัดนี้ คงตอกย้ำได้อย่างชัดเจนว่า “กลุ่มเกษร” ทุ่มเทสรรพกำลังเพื่อเนรมิตตึกใหม่นี้ให้ “เป็นเลิศอย่างไม่มีเงื่อนไข” และจะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตการทำงานของทั้งผู้บริหารบริษัทชั้นนำ และบุคลากรให้มีความสุข อันมีผลต่อการเพิ่มศักยภาพและคุณภาพของผลงานที่สูงขึ้น โดยอาคาร Gaysorn Tower จะก่อสร้างแล้วเสร็จกลางปี 2017 และจะมีพิธีเปิดอย่างเป็นทางการพร้อมกับ Gaysorn Village ในช่วงไตรมาสที่สามของปีเดียวกัน

ข้อมูลเพิ่มเติม : www.gaysorntower.com


แชร์ :

You may also like