เอไอเอส ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านเครือข่ายดิจิทัลที่เร็ว แรง และครอบคลุมมากที่สุด เป็นอันดับ 1 ของไทย ทั้งเครือข่าย 4.5G, 4G, 3G ประกาศความร่วมมือกับบริษัท ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ อิงค์ ซึ่งเป็นบริษัทในเครือ ควอลคอมม์ อินคอร์ปอเรทเต็ด เพื่อมอบเทคโนโลยี LTE Advanced (LTE-A) สู่ผู้ใช้งานชาวไทย นอกเหนือจากการตอกย้ำความเป็นผู้นำเทคโนโลยีในประเทศไทยของเอไอเอสแล้ว การร่วมมือครั้งนี้ยังทำให้เอไอเอสก้าวสู่แถวหน้าความเป็นผู้นำเทคโนโลยี LTE-A ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตอกย้ำความแข็งแกร่งของความเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์ที่มีประสิทธิภาพสูง ก้าวทันและพร้อมรองรับเทคโนโลยีสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานสมาร์ทโฟนให้เป็นไปอย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงประสบการณ์การใช้งานโมบายดาต้าบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ที่รวดเร็วกว่า และดียิ่งขึ้นให้กับผู้บริโภค
เมื่อปลายปี 2559 ควอลคอมม์ เอ็นจิเนียริ่ง เซอร์วิส กรุ๊ป (อีเอสจี) ได้ทำงานร่วมกับเอไอเอสเพื่อทดสอบระบบ 256-QAM สำหรับการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ downlink และ 64-QAM สำหรับเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ uplink บนเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่ของเอไอเอส ผลการทดสอบแสดงอัตราการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แบบ downlink เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 และเพิ่มมากขึ้นร้อยละ 50 สำหรับเชื่อมต่อสัญญาณอินเทอร์เน็ตแบบ uplink โดยเป็นการทดสอบขณะกำลังเคลื่อนที่และอยู่กับที่ นอกจากนี้ยังพบว่ามีการเพิ่มขึ้นทาง throughput อย่างเป็นนัยยะสำคัญในส่วนของ uplink 2x carrier aggregation (UL 2xCA) ขณะส่งข้อมูลจากมือถือไปเก็บไว้ที่ Cloud
ความร่วมมือล่าสุดระหว่าง ควอลคอมม์ และ เอไอเอส มุ่งเน้นไปที่นวัตกรรม LTE-A ที่ล้ำหน้าที่สุดในขณะนี้ ที่มีอยู่ในเครือข่าย LTE-A ของเอไอเอสที่เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตแบบ downlink ทั้งหมดนี้รวมถึงเทคโนโลยีเครือข่าย downlink 3x carrier aggregation (DL 3xCA) ซึ่งสามารถส่งข้อมูลในอัตราความเร็วสูงขึ้น และมีปริมาณรองรับการใช้งานได้มากขึ้น และระบบ 4×4 MIMO (Multiple-Input Multiple-Output) ที่สามารถรองรับการดาวน์โหลดข้อมูลผ่านทางเสาสัญญาณได้พร้อมกันถึง 4จุด ซึ่งมีการเชื่อมต่อที่รวดเร็วมาก อัตราการตอบสนองของเครือข่ายก็เร็วขึ้น และสามารถประเมินผลการทำงานของแอปพลิเคชั่นระดับสูงได้อย่างรวดเร็วขึ้น ผลการทดสอบภาคสนามครั้งนี้แสดงให้เห็นว่า DL 3xCA ให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นตามสัดส่วนแบนด์วิดธ์ของคลื่นความถี่ที่เพิ่มขึ้น และมือถือที่รองรับเทคโนโลยี 4×4 MIMO จะได้รับประโยชน์เพิ่มมากขึ้นอีกร้อยละ 50
ด้วยเทคโนโลยี LTE-A ควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ มุ่งมั่นที่จะพัฒนาระบบ 4G LTE ให้ก้าวหน้าถึงระดับการส่งข้อมูลด้วยอัตราความเร็วอย่างที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน รวมถึงยกระดับประสบการณ์ในการใช้โมบายดาต้าให้น่าทึ่งกว่าเดิมด้วยการใช้โซลูชั่น Qualcomm® Snapdragon™ LTE modem ด้วยประสิทธิภาพของเครื่อข่ายที่ก้าวล้ำ ทำให้ผู้ใช้บริการของเอไอเอส ทั้งลูกค้าองค์กรและลูกค้ารายบุคคล ได้รับความพึงพอใจมากยิ่งขึ้นจากเทคโนโลยี LTE Advanced ที่มาเสริมประสิทธิภาพให้กับบริการโมบายดาต้าบนเครือข่าย 4G
“เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานอีกครั้งกับผู้ให้บริการเครือข่ายดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย อย่าง เอไอเอส ซึ่งเป็นพันธมิตรกันมาอย่างยาวนาน เพื่อยกระดับคุณภาพเครือข่ายให้สูงขึ้นไปอีกขั้น” คุณสุวิทย์ พฤกษ์วัฒนานนท์ ผู้จัดการใหญ่ประจำประเทศไทยและเมียนมาร์ กล่าว “ในขณะที่ผู้ใช้บริการมีการใช้งานเครือข่าย 4G อย่างแพร่หลายมากขึ้นในประเทศไทย เราต้องการสร้างความมั่นใจว่า ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุดบนเครือข่ายของเอไอเอส โดยควอลคอมม์ เทคโนโลยีส์ พร้อมก้าวต่อไปในฐานะผู้นำด้านวิวัฒนาการเทคโนโลยี LTE-A ซึ่งเป็นนวัตกรรมล้ำยุค ที่จะมอบประสบการณ์โมบายดาต้าที่ดีและเร็วมากยิ่งขึ้น ตลอดจนโซลูชั่นต่างๆ ที่พร้อมรองรับความต้องการใช้งานดาต้าในการรับส่งข้อมูลมือถือที่เพิ่มขึ้นอย่างทวีคูณทั่วประเทศไทยได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ”
นายเกรียงศักดิ์ วาณิชย์นที หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี เอไอเอส กล่าวว่า “ด้วยความมุ่งมั่นในการพัฒนาเครือข่ายให้ดีที่สุดอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เครือข่าย 4G ของเอไอเอสครอบคลุมพื้นที่ประชากรกว่า 98% แล้ว ในปีนี้ เราก็ยังมุ่งแสวงหาเทคโนโลยีใหม่ๆ มาต่อยอดและพัฒนาเครือข่ายดิจิทัลให้แข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยการเพิ่มประสิทธิภาพเรื่องความเร็ว และปริมาณการรองรับการใช้งาน ซึ่งเราตระหนักดีว่า คุณภาพโทรศัพท์มือถือที่ดีนั้น มีความสำคัญเท่ากับการมีเครือข่ายที่วางใจได้ ด้วยเหตุนี้ เราจึงทำงานอย่างใกล้ชิดกับพันธมิตรชั้นนำในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพของโทรศัพท์มือถือก่อนทำการเปิดตัวเสมอ และวันนี้ เอไอเอส จึงยินดีเป็นอย่างมากที่ได้ร่วมมือกับเจ้าตลาดผู้ผลิตเทคโนโลยีชิปเซ็ตบนโทรศัพท์มือถืออย่างควอลคอมม์ เพื่อทำการทดสอบประสิทธิภาพการทำงานของเครือข่าย 4.5G และ 4G บนเทคโนโลยี LTE Advanced ซึ่งเราทั้งสองบริษัทรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างมาก กับผลทดสอบที่พบว่า เอไอเอสเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายที่เร็วที่สุด แรงที่สุด และเสถียรที่สุด สำหรับลูกค้าและคนไทย และเพื่อรักษาความเป็นผู้นำอันดับ 1 ในอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ปีนี้ เราวางแผนที่จะลงทุน 40,000 – 45,000 ล้านบาท เพื่อพัฒนาคุณภาพเครือข่ายให้ดีมากยิ่งขึ้น เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ยุค 5G ในอนาคตอันใกล้นี้”