สำหรับ Infographic Thailand บริษัทเชี่ยวชาญทำคอนเท้นต์ประเภทภาพอินโฟกราฟฟิค ที่นำไปใช้สื่อสารเรื่องราวยากๆให้คนทั่วไปเข้าใจได้ง่าย จนกลายมีชื่อเสียงโด่งดังจนถึงปัจจุบัน ล่าสุด Brand Buffet มีโอกาสได้พูดคุยและสัมภาษณ์ Exclusive กับ คุณเดียร์-ธนโชติ วิสุทธิสมาน ซีอีโอหนุ่มไฟแรงจาก Infographic Thailand ที่ตอนนี้เปิดดิจิทัลเอเย่นซี่ (Digital Agency)ที่ใช้ชื่อว่า LIKEME Agency
จากอินโฟกราฟฟิค สู่ ดิจิทัลเอเย่นซี่
คุณธนโชติ เริ่มต้นอธิบายย้อนหลังไปว่า 5 ปีที่แล้วได้เข้าร่วมกับ AIS Startup Weekend 2011 จนคว้ารางวัลรองชนะเลิศพร้อมกับเงินลงทุนมาทำ Tech startup ด้าน Mobile ซึ่งขณะนั้นได้มีโอกาสทำอินโฟกราฟฟิค เพื่อเอาไว้โปรโมตแอปพลิเคชั่นซึ่งได้รับความนิยมกว่ามากๆ จึงหันมาตั้งเป็นบริษัท Infographic Thailand รับทำคอนเทนต์ทุกประเภทที่ใช้อินโฟกราฟฟิค เป็นตัวเล่าเรื่อง เมื่อทำงานด้านคอนเทนต์มากๆ ก็พบว่าคนไทยยังขาดความู้ด้านการเงินเป็นจำนวนมาก ทั้งที่เป็นเรื่องสำคัญ จึงเปิดเว็บไซต์ Aommoney แหล่งข้อมูลด้านการเงินที่เข้าถึงง่าย เข้าใจง่ายสำหรับคนไทยเป็นลำดับต่อมา และล่าสุดเป็นก้าวกระโดดสำคัญของบริษัท ซึ่งก็คือ LIKEME Agency
“ด้วยโอกาสที่มองเห็นในตลาดนี้ คือ ความต้องการของลูกค้า(แบรนด์)ที่เปลี่ยนแปลง ที่มองหา Solution ตั้งแต่ต้นจนจบ (วางกลยุทย์, ลงมือทำ, กระจายข้อมูล) ของโจทย์ที่ลูกค้ามี แทนที่การสั่งงานเป็นรายชิ้นหรือแค่ส่วนหนึ่งของงานใหญ่ ซึ่งเราค่อนข้างเห็นด้ความสำคัญของการ synchronize ขั้นตอนที่กล่าวมาเข้าด้วยกัน เพราะการวางแผนกลยุทธ์ที่ดี จะนำไปถูกการจัดทำคอนเทนต์ที่มีประสิทธิภาพด้วย จึงเป็นโอกาสสำคัญและถึงเวลาเข้าสู่ธุรกิจดิจิทัลเอเย่นซี่แบบ Full Service เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้าที่กำลังเกิดขึ้น
ตัวจริง คอนเท้นต์ – เทคโนโลยี
แม้ว่าจะใครๆก็มองว่าธุรกิจดิจทัลเอเย่นซี่ตอนนี้แข่งขันค่อนข้างจะหนักและดุเดือดเป็นอย่างมาก แต่คุณธนโชติมั่นใจถึงประสบการณ์และบทเรียนราว 4-5 ปีที่ผ่านในวงการนี้
“ระหว่างทำงานกับลูกค้าที่ผ่านมาทั้ง Infographic และ Aommoney ทำให้เข้าใจว่าลูกค้าหลายๆที่หรือแม้แต่กระทั่งเอเยนซี่จำนวนไม่น้อยเช่นกัน ยังไม่เข้าใจเนื้อแท้ ในการทำคอนเท้นต์ออนไลน์ (online content) เพราะการสื่อสารการตลาดและโฆษณาเริ่มมาจาก traditional advertising ดังนั้นแนวความคิดแบบเดิมๆจึงถูกส่งต่อมาอย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้เราอยู่ในยุคของดิจิทัลแล้ว เราเอาแนวคิด (thinking) แบบเก่าๆจากการทำสื่อดั้งเดิม มาทำคอนเท้นต์ออนไลน์ ไม่ได้แล้ว ผมว่ามันไม่ถูก ขณะเดียวกันจุดแข็ง LIKEME คือ เราเติบโตมาจากคอนเท้นต์ เรารู้อยู่ว่าคนชอบคอนเท้นต์แบบไหน อีกทั้งเราก็มีแกนของเทคโนโลยีด้วย เพราะเราเริ่มต้นจาก Tech startup สองตัวนี้กำลังมาและกำลังจะเป็นอนาคต ซึ่งเป็นสองอย่างที่เราเชี่ยวชาญ
สำหรับลักษณะการทำงานของ LIKEME จะใช้โจทย์ของลูกค้าเป็นที่ตั้ง แล้วหา Solution ต่างๆเพื่อแก้โจทย์ของลูกค้า โดยใช้ความเชี่ยวชาญเรื่องคอนเท้นต์และการเล่าเรื่อง ( storytelling ) มาผสมกับใช้เทคโลยีสร้างประสบการณ์ให้กับกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้เกิดการเล่าเรื่องหรือสื่อสารที่สมบูรณ์ หรือ เกิด Best Story ที่ทำให้คนเกิดอยากอ่านอยากแชร์ด้วยตนเอง
และทิศทางของการโฆษณาต่อไปจะไร้รูปแบบ หรือ เรียกว่า ยุคฟรีฟอร์ม ต้องคุยกันที่แมสเสส และเหมาะสมกับฟอร์มแบบไหน แล้วก็ใช้ฟอร์มแบบนั้นสื่อสารออกไป
โฆษณาเก่าอย่าเอามาใช้กับยุคดิจิทัล
รูปแบบโฆษณายุคก่อนคนจะถูกบังคับให้ดูโฆษณาตามแบรนด์เป็นผู้กำหนด ซึ่งเรียกว่าเป็น Broadcasting Channel แบรนด์มีหน้าที่ทำโฆษณาให้ครีเอทีฟที่สุด เพื่อให้ผู้บริโภคจดจำแมสเสสหรือแบรนด์ได้มากที่สุด แต่มาถึงปัจจุบันเป็นยุคออนไลน์แล้ว ต้องทำให้คอนเท้นท์ต้องวิ่งไปหาคนดู เพราะผู้บริโภคไม่อยู่กับที่แล้ว ไม่มีคนรอดูตามช่องทางไหนช่องทางนึงอีกต่อไป ดังนั้นแนวความคิด (Thinking) จึงต้องเปลี่ยน หรือที่เรียกว่า คอนเท้นต์ มาร์เก็ตติ้ง (Content Marketing) คือการเปลี่ยนแมสแสสของลูกค้าไปในรูปแบบที่ผู้บริโภคอยากจะเสพ อยากจะอ่าน หรือแชร์ สิ่งเหล่านี้เป็นแนวคิดสำคัญ แต่เอเย่นซี่โฆษณายังติดกับดักนี้อยู่
“ตัวอย่างเช่น ทุกวันนี้แมสเสสมันต้อง tie-in กับ คอนเท้นต์ให้ได้ สิ่งที่เราต้องการสื่อสารต้องผสานเข้าไปอยู่ในสิ่งที่เขาเสพย์อยู่ประจำในระดับที่พอดี เพื่อทำให้เค้ารู้สึกอยากเสพคอนเท้นต์ด้วยตัวเอง ไม่ใช่มาบังคับให้ดูอีกแล้ว ซึ่งนั่นก็คือความเชี่ยวชาญของเรา ”
ส่วนด้านเทคโนโลยี ปัญหาใหญ่คือ วงการโฆษณากำลังใช้เทคโนโลยีใช้แค่สร้างว้าว มันต้องมองเป็นกลยุทธ์ระยะยาวไม่ใช่แค่กิมมิคเกิดมาแล้วจบไป เพราะการทำเทคโนโลยีแต่ละครั้งใช้เงินทุนสูง ซึ่งต้องคิดและวางแผนให้ดีเพื่อประโยชน์
การรุกเข้ามาสู่ธุรกิจดิจิทัลเอเย่นซี่ครั้งนี้ น่าจะเป็นอีกแรงผลักดันให้อุตสาหกรรมเติบโตและก้าวไปสู่การสื่อสารการตลาดดิจิทัลอย่างถูกต้องและสร้างสรรค์ ประกอบกับประสบการณ์ที่เชี่ยวชาญจึงทำให้ LIKEME เป็นอีกหนึ่งเอเย่นซี่ที่น่าจับตามอง
บริการหลัก ของ LIKEME
1. ด้านคอนเทนต์ บริการวางกลยุทธ์ทางการตลาดและสร้างคอนเท้นต์ที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์
2.ด้านเทคโนโลยี บริการพัฒนาและออกแบบ เว็บไซต์, แอปพลิเคชั่น ไปจนถึงคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ เพื่อใช้ในธุรกิจหรือการโปรโมตสินค้าและแคมเปญ
3.ด้านมีเดีย บริการวางแผนกลยุทธ์บริหารสื่อ เพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของลูกค้าอย่างมีประสิทธิภาพ