HomeBrand Move !!อีคอมเมิร์ซไทย ลุกเป็นไฟ! ปลายปีนี้ “JD.com” คู่แข่งใหญ่ “Alibaba” เคลื่อนทัพรุกไทย

อีคอมเมิร์ซไทย ลุกเป็นไฟ! ปลายปีนี้ “JD.com” คู่แข่งใหญ่ “Alibaba” เคลื่อนทัพรุกไทย

แชร์ :

Photo Credit : REUTERS/Jason Lee

เวลานี้ “เอเชียตะวันออกเฉียงใต้” กลายเป็นจุดหมายสำคัญของยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากประเทศจีน หลังจากก่อนหน้านี้ “Alibaba” เบอร์หนึ่งในตลาดการค้าออนไลน์จีน เผยแผนการลงทุนในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น เริ่มจากการซื้อ “Lazada” เพื่อเจาะตลาดอาเซียน กระทั่งต่อมาได้เลือกมาเลเซีย เป็นศูนย์กลางการกระจายสินค้าในตลาดภูมิภาคนี้ และความเคลื่อนไหวล่าสุดวางแผนเปิด Data Center ในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซียช่วงไตรมาส 1 ของปี 2018

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ไม่เพียงแต่ “Alibaba” ที่โฟกัสภูมิภาคนี้ ขณะเดียวกัน “JD.com” อีกหนึ่งยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซจากแดนมังกร ที่เข้าไปปักธงในอินโดนีเซียแล้ว ก็วางแผนบุกหนักตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เช่นกัน

Richard Liu ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร “JD.com Inc” อีคอมเมิร์ซรายใหญ่ของจีน ที่มีขนาดธุรกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจาก Alibaba เผยยุทธศาสตร์ธุรกิจเตรียมลงทุนในประเทศไทยช่วงปลายปี 2017 โดยจะใช้ไทยเป็นศูนย์กลางการให้บริการธุรกิจอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เพราะต่อไปจะขยายตลาดไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคนี้ เช่น เวียดนาม, มาเลเซีย

นอกจากการมองหาตลาดใหม่นอกประเทศจีน ที่ผ่านมา “JD.com” ได้เดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจ เพื่อให้สามารถแข่งขันได้ท่ามกลางสมรภูมิรบที่รุนแรง ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนในธุรกิจสินค้าอุปโภคบริโภค, อุปกรณ์เครื่องใช้ในครัวเรือนต่างๆ, ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงขยายไปสู่ธุรกิจ Data, Cloud และการพัฒนาระบบปัญญาประดิษฐ์

การลงทุนในธุรกิจเกี่ยวกับเทคโนโลยีเหล่านี้ เป็นไปในทิศทางเดียวกับ “Alibaba” รวมถึงบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของโลก เพราะการแข่งขันของโลกธุรกิจนับจากนี้ การมี Big Data และสามารถนำมาวิเคราะห์ได้ถูกต้อง แม่นยำ จะสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขันให้กับองค์กรนั้นๆ

 

Source 

 


แชร์ :

You may also like