ไม่ใช่เรื่องง่ายที่แบรนด์ๆ หนึ่งจะผ่านยุคสมัยแห่งการเปลี่ยนแปลง และอยู่มาได้กว่า 1 ศตวรรษ แต่เป็นเรื่องจริงที่เกิดขึ้นสำหรับแบรนด์ “ซันคิสท์” (Sunkist) ผลิตภัณฑ์จากสวนส้มคุณภาพมาตรฐานจากแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ที่สามารถยืนหยัดในตลาดอย่างแข็งแกร่งมาเป็นเวลา 120 ปีแล้ว และวันนี้ตำนานน้ำส้มระดับโลก ได้เดินทางมาถึงเมืองไทยแล้ว เพื่อให้คนไทยได้สัมผัสรสชาติความอร่อย สดชื่น ดีต่อสุขภาพจากคุณค่าธรรมชาติ
แต่ก่อนจะดื่มน้ำส้มให้สดชื่น เรามาทำความรู้จักแบรนด์น้ำส้มระดับโลก “ซันคิสท์” กันก่อนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ทำไมคนทั่วโลกถึงนิยมดื่มกัน และการเข้าสู่ตลาดไทยเป็นครั้งแรก จะมีกลยุทธ์เอาชนะใจผู้บริโภคไทยอย่างไร ?!? ไปติดตามกัน…
1. “ซันคิสท์” เป็นแบรนด์ผลิตภัณฑ์จากส้มที่ได้รับความเชื่อถือในระดับโลกมาตั้งแต่ปี ค.ศ.1893 ด้วยประสบการณ์และเคล็ดลับในกระบวนการปลูกส้มซันคิสท์อย่างทุ่มเท เก็บด้วยมือ คัดสรรด้วยความเอาใจใส่ของเกษตรกรจากสหกรณ์การเกษตรสวนส้มซันคิสท์นับ 1,000 ราย สืบทอดคุณภาพกันมากกว่า 5 รุ่น ในรัฐแคลิฟอร์เนีย และรัฐแอริโซนา ประเทศสหรัฐอเมริกา
2. เพราะเชื่อว่าธรรมชาติ คือ สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับร่างกาย จึงมุ่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ ตั้งแต่กระบวนการ คัดเลือกแหล่งที่มาของวัตถุดิบที่ได้มาตรฐานจาก “ซันคิสท์ โกรว์เออร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา” ผ่านกระบวนการรักษาคุณภาพ กระบวนการผลิตในทุกขั้นตอนที่ช่วยถนอมคุณค่าสารอาหาร เพื่อให้ได้รสชาติที่ยังคงความสดใหม่ และประโยชน์ของสารอาหารจากธรรมชาติ มีคุณภาพ และปลอดภัย
3. “วี ฟู้ดส์” บริษัทอาหารและเครื่องดื่มชั้นนำของประเทศไทย ก่อตั้งขึ้นเมื่อ 3 ปีที่แล้ว ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ข้าวโพด วี คอร์น ซึ่งเป็นแบรนด์ในประเทศ และดาวคอฟฟี่ แบรนด์ระดับอาเซียน ล่าสุดได้ได้รับความไว้วางใจจาก “ซันคิสท์ โกรว์เออร์ รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา” มอบลิขสิทธิ์ในการพัฒนาและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มน้ำผลไม้ภายใต้แบรนด์ซันคิสท์ในประเทศไทย
4. หนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ “วี ฟู้ดส์” ได้รับลิขสิทธิ์ในครั้งนี้ เพราะซันคิสท์ โกรว์เออร์ เห็นถึงพลังและความตั้งใจของทีมงานวี ฟู้ดส์ ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ และมีนวัตกรรมในการพัฒนาสินค้าให้มีความน่าสนใจ
5. แต่กว่าจะออกมาเป็นน้ำส้มที่ถูกปากผู้บริโภคไทย “วี ฟู้ดส์” ได้คัดเลือก 2 สายพันธุ์ส้มที่โดดเด่นและแตกต่างจาก 40 กว่าสายพันธุ์ของซันคิสท์ นำมาคิดค้นเป็นผลิตภัณฑ์น้ำส้ม 2 รสชาติใหม่ครั้งแรกในโลก คือ “ซันคิสท์ เฟรชชี่ บลัดออเร้นจ์” และ “ซันคิสท์ เฟรชชี่ นาเวลออเร้นจ์” บรรจุในขวด PET สะดวกต่อการพกพาไปไหนมาไหน
6. “น้ำส้มบลัดออเร้นจ์” เป็นส้มเพียงหนึ่งเดียวที่มีเนื้อสีแดงธรรมชาติจากสารแอนโทไซยานินที่มีสารที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระมีประโยชน์ต่อการดูแลสุขภาพและความงาม และยังผสานคุณค่าจากอะโรเนียเบอร์รี่ซึ่งเป็นซูเปอร์ฟรุตที่มีปริมาณสารต้านอนุมูลอิสระสูง ส่วน “น้ำส้มนาเวล” มีเนื้อส้มสีเหลืองทอง มีจุดเด่นให้วิตามินซีสูง รสชาติเปรี้ยวหวานกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์ ทั้ง 2 รสชาติเป็นสูตรน้ำตาลน้อยกว่า และยังมีรสชาติอร่อย ให้ความสดชื่น
7. กลุ่มเป้าหมายของ “ซันคิสท์ เฟรชชี่” เป็นคนเมืองยุคใหม่ที่ใส่ใจสุขภาพ ใช้ชีวิตในเมือง มีไลฟ์สไตล์กระฉับกระเฉง ทั้งทำงาน สนุกกับชีวิต ดูแลสุขภาพ และสนใจเรื่องดิจิทัล
8. ขณะที่กลยุทธ์การตลาด เพื่อเข้าถึงกลุ่มคนเมืองยุคใหม่ ที่ชีวิตส่วนใหญ่อยู่บนโลกดิจิทัล จึงเลือกใช้ช่องทางสื่อออนไลน์ และ Online Influencer พร้อมทั้งมีแคมเปญเปิดตัว “ซันคิสท์ เฟรชชี่” ภายใต้แนวคิด “การเดินทางของส้มจากสวนส้มซันคิสท์แคลิฟอร์เนียถึงประเทศไทย” โดยไอเดียของแคมเปญดังกล่าว สื่อถึงเรื่องราวของชีวิตส้มซันคิสท์ ผ่านช่องทาง Instagram ในชื่อ Mr. Blood and Miss Navel (IG : mr_blood_and_miss_navel) ตัวแทนของส้มที่ได้รับการดูแลเอาใจใส่อย่างดีจากเกษตรกรสวนส้มซันคิสท์ ได้เดินทางจากสวนส้มซันคิสท์ แคลิฟอร์เนียบ้านเกิดมาประเทศไทย ด้วยการดูแลเอาใจใส่ที่ดีตลอดการเดินทางของชีวิตส้มระดับโลก เพื่อมาส่งมอบประโยชน์และคุณค่าจากธรรมชาติให้กับคนไทย พร้อมทั้งมี Hashtag #LiveFresh เพื่อต้องการสื่อสารถึงคนเมืองยุคใหม่ ให้ใช้ชีวิตอย่างสดชื่นเต็มที่ สนุกทั้งชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัว ที่สำคัญคือไม่ลืมที่จะใส่ใจในเรื่องสุขภาพอีกด้วย และตามด้วยวีดีโอเปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Mr. Blood and Miss Navel จนกลายมาเป็นน้ำส้มซันคิสท์ 2 รสชาติ บลัดออเร้นจ์ และ นาเวลออเร้นจ์ ที่ส่งมอบความอร่อย สดชื่นและคุณค่าดีๆชีวิตรสชาติใหม่
9. ขณะนี้ “ซันคิสท์ เฟรชชี่” ได้วางจำหน่ายแล้วที่ร้านเซเว่นอีเลฟเว่น 5,500 สาขาในกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภาคตะวันออก ในราคาขวดละ 20 บาท และเพื่อเปิดตัวให้คนไทยได้รู้จักแบรนด์ “ซันคิสท์” มากขึ้น จึงได้จัดกิจกรรมโรดโชว์เพื่อให้ผู้บริโภคได้ทดลองชิมและสร้างการรับรู้ในแบรนด์สินค้า ตามอาคารสำนักงานในเมือง สยามแควร์ ตลาดนัดจตุจักร และงานอีเว้นท์ที่ตรงกับไลฟ์สไตล์คนเมืองยุคใหม่
10. “วี ฟู้ดส์” เชื่อมั่นว่า “ซันคิสท์ เฟรชชี่” จะได้รับการตอบรับและประสบความสำเร็จในตลาดไทย เช่นเดียวกับประเทศอื่นๆทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นอเมริกา ทวีปยุโรป ออสเตรเลีย และในเอเชียที่ได้รับลิขสิทธิ์มาแล้ว อาทิ ญี่ปุ่น เกาหลี จีน ฮ่องกง ไต้หวัน อินเดีย และกลุ่มประเทศอาเซียน ได้แก่ สิงคโปร์ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปินส์และเมียนมาร์
ใครที่สนใจเรื่องราวของ “ส้มซันคิสท์” เพิ่มเติม ติดตามได้ที่ https://www.facebook.com/sunkistbevTH/
http://www.sunkistthailand.com/ และ https://www.instagram.com/mr_blood_miss_navel/