เครือข่ายเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ทุ่มพันล้าน เข้าถือหุ้น 50% บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ผู้บริหารช่องจีเอ็มเอ็ม 25 คลื่นวิทยุเอไทม์มีเดีย จีเอ็มเอ็ม ทีวี และเอไทม์ ทราเวิลเลอร์ ร่วมกับ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) หลังช่วงปลายปีที่ผ่านมา กลุ่มเสี่ยเจริญได้เข้าถือหุ้นในบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง ผู้บริหารทีวีดิจิตอลช่อง AMARIN 34 ในสัดส่วน 47.62% ภายใต้มูลค่าการลงทุน 850 ล้านบาท ไปเรียบร้อยแล้ว
นางสายทิพย์ มนตรีกุล ณ อยุธยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายธุรกิจ จีเอ็มเอ็ม มีเดีย บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ลงนามในสัญญาจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด โดยมี บริษัท อเดลฟอส จำกัด เพิ่มทุนในสัดส่วน 50 % เป็นมูลค่าการลงทุน 1,000 ล้านบาท เพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้านคอนเทนท์ให้ครบทุกมิติ รองรับการเติบโตของธุรกิจดิจิตอลในอนาคต
“บริษัท อเดลฟอส จำกัด เป็นบริษัทนิติบุคคลที่มีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี บุตรชายของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ โดยจะเข้ามาร่วมถือหุ้นเพิ่มทุนของ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง จำกัด ในสัดส่วน 50% เป็นมูลค่าเงินลงทุน 1,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นดีลการเจรจาเข้ามาถือหุ้นเพิ่มทุน ไม่ใช่การขายหุ้นเดิม และไม่ได้ทำให้โครงสร้างการบริหารงานของกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหลังจากการเพิ่มทุนในครั้งนี้”
สำหรับการเข้ามาร่วมถือหุ้นของ บริษัท อเดลฟอส จำกัด เนื่องจาก มองเห็นถึงศักยภาพ อัตราการเจริญเติบโตของกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ทั้งในธุรกิจมีเดีย ที่ประกอบด้วยช่องจีเอ็มเอ็ม 25 คลื่นวิทยุเอไทม์มีเดีย จีเอ็มเอ็ม ทีวี และในธุรกิจ Travel Agent โดย เอไทม์ ทราเวิลเลอร์ เนื่องจากมีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน ประกอบกับความนิยมทางออนไลน์ที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และต่อเนื่อง รวมทั้งมีความเชื่อมั่นในการบริหารงานของทีมงานของบริษัท โดยการร่วมทุนครั้งนี้ถือเป็นโอกาสที่ดีที่จะมาช่วยเสริมให้บริษัทมีความแข็งแกร่งด้านคอนเทนท์มากขึ้น ส่งผลให้มีการเติบโตได้เร็วขึ้นในอนาคต
“การเพิ่มทุนครั้งนี้ถือว่าเป็นการต่อยอดครั้งสำคัญของกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แชนแนล เทรดดิ้ง ซึ่งผู้ร่วมทุนเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีอนาคตสดใส มีทิศทางเจริญเติบโตได้อย่างมหาศาล เพราะบริษัทแกรมมี่มีจุดแข็งทางด้านคอนเทนท์ และปัจจุบันช่องจีเอ็มเอ็ม 25 ถือว่าได้รับความนิยมจากผู้ชมอย่างดี มีแนวโน้มขยายตัวได้เพิ่มขึ้น มีกลุ่มเป้าหมายชัดเจน มีรายการที่ทันยุคสมัย หลากหลายและโดนใจผู้ชม การเพิ่มทุนจึงช่วยให้สามารถลงทุนในด้านคอนเทนท์ต่างๆ ของช่องได้มากขึ้น และเชื่อว่าหลังจากการเพิ่มทุนและเสริมความแกร่งด้านคอนเทนท์ จะส่งผลให้อันดับเรตติ้งช่องจีเอ็มเอ็ม 25 เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
ขณะที่การรุกคืบเข้ามาในธุรกิจทีวีดิจิตอลของกลุ่มเสี่ยเจริญ เริ่มโดยใช้บริษัท วัฒนภักดี จำกัด ที่มีนายฐาปน สิริวัฒนภักดี และนายปณต สิริวัฒนภักดี เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่เช่นเดียวกัน ด้วยการเข้าไปถือหุ้น 47.62% ในบริษัท อมรินทร์พริ้นติ้ง แอนด์ พับลิชชิ่ง ด้วยมูลค่าลงทุน 850 ล้านบาท เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ด้วยเหตุผลในการเข้าไปสนับสนุนและต้องการเพิ่มศักยภาพในการก้าวสู่การเป็นธุรกิจมีเดียอย่างครบวงจรของเครืออมรินทร์ รวมทั้งการเตรียมพร้อมเพื่อรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้นภายหลังจากการเปิด AEC ด้วยทีมบริหารตามโครงสร้างเดิมเช่นเดียวกัน