เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Gushcloud International บริษัท Influencer marketing และ entertainment ได้จัดงาน Gushcloud Japan และเพื่อสร้างสีสันรวมทั้งสะท้อนความร่วมมือของบริษัทกับ Influencer ทั่วเอเชีย ทาง Gushcloud ได้เชิญไอดอลของประเทศไทยไปร่วมงาน 2 รายประกอบด้วย พิมฐา-ฐานิดา มานะเลิศเรืองกุล ไอดอลสาวสวยที่ได้รับความนิยมบนโซเชียลมีเดีย และตัวแทนจากไอดอลกรุ๊ป BNK48 โดยในงานนี้ BrandBuffet เป็นเพียงสื่อไทยรายเดียวที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว จึงขอสรุปมูฟเมนต์ที่ต่อไปนี้ “โอตะ” ทั้งหลาย รอชมผลงานได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขยายบริการให้กับบริษัทญี่ปุ่นที่สนใจโฆษณาสินค้าและบริการสู่ผู้บริโภคชาวไทย และ Southeast Asia
เชื่อมโยงสินค้า “ญี่ปุ่น” ให้บุก SEA ง่ายขึ้น
การเปิดตัว Gushcloud ที่ญี่ปุ่นในครั้งนี้มีจุดมุ่งหมายเพื่อบุกตลาดอาเซียนทางตอนเหนือโดยเฉพาะ โดยตั้งเป้าหมายไว้ 3 ประการ ประการแรกคือการเข้าถึงแบรนด์และเอเย่นของญี่ปุ่นมากขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใน SEA ประการที่สอง คือการเข้าถึง Influencers และ Content creators ชาวญี่ปุ่นเพื่อช่วยสนับสนุนและผลักดันให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นทั้งในและนอกประเทศ และประการสุดท้ายคือการสนับสนุน Influencers และ Content creators ให้มีโอกาสในการโกอินเตอร์มากขึ้นด้วยการร่วมโปรเจ็คระหว่างประเทศในเอเซีย “ญี่ปุ่นมีตลาดโฆษณาที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลก การลงทุนจากบริษัท D2C (Joint Venture ของ Docomo, NTT และ Dentsu)
ข้อมูลจาก PwC (หนึ่งในบิ๊กโฟร์วงการผู้ตรวจสอบบัญชี) ระบุในรายงานเดือนสิงหาคม2560 ว่า บริษัทญี่ปุ่น 11,328 แห่งขยายกิจการในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (SEA) โดยเลือกลงทุนในประเทศไทยมากที่สุดกว่า 4,788 แห่ง (นับเป็น 30.4%) ตามมาด้วยประเทศสิงคโปร์ 2,821 แห่ง (17.9%) และ เวียดนามเป็นอับดับ 3 ด้วยจำนวน 2,527 แห่ง (16%) นอกจากนี้รายงานยังระบุว่าในปี 2560 นี้ บริษัทญี่ปุ่นเลือกประเทศในแถบอาเซียนลงทุนมากกว่าสมัย5ปีที่แล้วถึง 3 เท่า (20.1 ล้านล้านเยนหรือ 5.87ล้านล้านบาทไทย) และมีแนวโน้มจะมากขึ้นเรื่อยๆอย่างต่อเนื่อง
อีกส่วนที่น่าสนใจสำหรับการเจาะตลาดลูกค้าญี่ปุ่น เนื่องจากจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางมาเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นทุกปี อย่างในปี 2559 มีมากถึง 24 ล้านคน โดยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากอาเซียน Gushcloud Japan จะมีบริการให้ทั้ง Inbound และ Outbound ด้วยเช่นกัน
คุณอิทธิ ยศสุนทร Managing Director Gushcloud Thailand กล่าวเสริมว่า Gushcloud International จะทำการประสานงานให้กับบริษัทแบรนด์ญี่ปุ่นที่มีสินค้าหรือบริการเพื่อเจาะลูกค้าในไทย และอาเซียน ซึ่งที่ผ่านมา Gushcloud Thailand เคยทำแคมเปญเกี่ยวกับการท่องเที่ยวญี่ปุ่นมาแล้ว โดยให้ Youtuber คนไทยได้เข้าร่วมทริปเพื่อรีวิวการท่องเที่ยวในญี่ปุ่น
คุณอิทธิ ยศสุนทร (ขวา)Managing Director Gushcloud Thailand ถ่ายรูปคู่กับน้องพิมฐา
“ทาง Gushcloud มีฐานข้อมูลเกี่ยวกับผู้ติดตาม Social Influencer ในสังกัดว่ามีผู้ติดตาม Follower เป็นกลุ่มผู้บริโภคที่มีความสนใจด้านอะไร อายุ เพศ ที่ผ่านมา Gushcloud ก็จะเลือก Social Media Influencer ที่เหมาะสมกับสินค้าและบริการของลูกค้า โดยมักจะบอกกับลูกค้าแบรนด์สินค้าตลอดว่า การ Hard Sales เพื่อโฆษณาสินค้านั้นไม่เวิร์ค แต่การใช้ Social Media Influencer นำเสนอผลิตภัณฑ์ตามสไตล์ของตัวตนเขาเอง จะได้รับความสนใจจากผู้บริโภคถูกกลุ่มมากกว่า อย่างเช่น พิมฐา ที่มีฐานแฟนคลับผู้ติดตามทั้งคนไทยและต่างประเทศ เขาก็จะมีประสบการณ์ในการนำเสนอสินค้าในแบบของตัวเอง และคนติดตามก็จะชอบในแบบที่เป็นตัวเขา”
พิมฐา ตัวจริงถิ่นซากุระ
สำหรับ พิมฐา สาวสวยชื่อดังบนโลกออนไลน์ อย่าง Instagram ที่มีผู้ติดตามมากถึง 3 ล้านคน และได้รับเลือกเป็น Influencer Lifestye Winner ปี 2017 ก็กล่าวว่า ตนเองเป็นตัวแทน Social Media Influencer จากไทย มางานเปิดตัว Gushcloud Japan เพราะไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตจะเกี่ยวข้องกับประเทศญี่ปุ่น และตนเองจบการศึกษาจากประเทศญี่ปุ่น รวมถึง จะชอบอัพเดตการท่องเที่ยว แฟชั่น สินค้าความงามจากญี่ปุ่นให้กับผู้ติดตามได้อัพเดตตลอดเวลา ซึ่งก็เคยร่วมทำงานกับการโปรโมทการท่องเที่ยวให้กับประเทศญี่ปุ่นมาแล้ว เช่นกัน
อนาคตของ BNK48 กับตลาดสินค้า “ญี่ปุ่น”
ภายในงานเดียวกัน ไอดอลกรุ๊ป BNK48 ที่เพิ่งเปิดตัวสมาชิกชุดแรกเมื่อกลางปี 2560 ที่ผ่านมา ก็ส่งตัวแทน อย่าง เฌอปราง – เฌอปราง อารีย์กุล (กัปตันวง) โมบาย – พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค (เซ็นเตอร์) และไข่มุก – วรัทยา ดีสมเลิศ มาเข้าร่วมงานนี้ด้วย โดยมี มาร์คซัง หรือ Takahito (marc) Katsuta INTERNATIONAL DIRECTOR ของวง BNK48 กล่าวว่า ทางด้าน BNK48 ที่เริ่มมีฐานแฟนคลับโอตะเหนียวแน่นแล้วจากการเปิดตัว กิจกรรม การนำเสนอด้วยเพลงและคอนเสิร์ตต่างๆ ในเฟสต่อไป ก็จะมุ่งขยายฐานแฟนคลับไปสู่วงกว้างมากขึ้น โดยจะมีการเปิดตัว MV เพลง คุกกี้เสี่ยงทาย (koisuru fortune cookie) ที่น่าจะสามารถเรียกความสนใจของคนทั่วไปเพิ่มขึ้น เพราะตนมองว่า BNK48 สามารถเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับกับแบรนด์สินค้าญี่ปุ่นที่ยังไม่สามารถเจาะตลาดไทยได้เต็มที่ได้อาศัย BNK48 เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคคนไทย ซึ่งในช่วงต้นเดือนธันวาคมที่จะถึงนี้นี้ ทาง BNK48 ก็จะมีงานแถลงข่าวเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์ร่วมกับแบรนด์สินค้าจากญี่ปุ่นในไทย
“ช่วงต้นเดือนธันวาคม BNK48 จะเปิดตัวเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าแบรนด์ญี่ปุ่น โดยเป็นแบรนด์สินค้า Mass ที่มีฐานผู้บริโภคอยู่แล้ว แต่แบรนด์สินค้านี้ชื่นชอบในคอนเซปต์ของ BNK48 จึงต้องการร่วมงานกัน และเป็นการร่วมงานรายปีที่เป็นโปรเจ็คที่ใหญ่มาก ที่น่าจะสร้างความแปลกใจให้กับฐานแฟนคลับที่ติดตามอยู่แล้ว ทั้งนี้ ในส่วนการจัดการและการบริหารงานในวงจะทำการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งช่วงแรกวงได้เน้นการนำเสนอหลากหลายแนว เฟสต่อไปจะเริ่มนำเสนอผ่านด้านซีรี่ส์ ละคร หรือภาพยนต์มากขึ้น รวมถึง การเปิดตัวเพลง คุ้กกี้เสี่ยงทาย การจัดกิจกรรมต่างๆ และการออดิชั่นสมาชิกวงรุ่น 2 ก็น่าจะช่วยยกระดับแบรนด์ BNK48 ให้สามารถเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าต่างๆ ได้ดีขึ้น”
บริษัท Gushcloud International เป็นบริษัทผู้ให้บริการด้าน influencer marketing และ entertainment ผ่านผู้มีชื่อเสียงในโลกออนไลน์ (Social media influence) และ Content creator (นักสร้างสรรค์เนื้อหาดีๆบนโลกออนไลน์) อยู่ในสังกัดกว่า 12,000 คน ครอบคลุมแฟนคลับกว่า 600 ล้านคนใน 8 ประเทศ Gushcloud มีสำนักงานใหญ่ที่ประเทศสิงคโปร์ มีออฟฟิศสาขาย่อยในประเทศไทย มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ เวียดนาม เกาหลีใต้ รวมถึง สหรัฐอเมริกา และออฟฟิศที่เพิ่งเปิดใหม่แห่งที่ 9 ที่ประเทศญี่ปุ่นด้วยเงินลงทุนจากบริษัท D2C (บริษัทเอเย่นสื่อดิจิทัลสัญชาติญี่ปุ่นในเครือของ บริษัท Docomo, NTT และ Dentsu) ซึ่งต้องถือว่าเป็นเอเจนซี่ยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นและมีลูกค้าอยู่ในมือมากมาย
เมื่อ Gushcloud ซึ่งเปิดสาขาที่ญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการแบบนี้ ก็ต้องมีความเข้าใจในธรรมชาติของศิลปินอย่างวง BNK48 ซึ่งมีต้นกำเนิดจากญี่ปุ่นดีอยู่แล้ว จากโจทย์ที่แฟนคลับ หรือแม้แต่คนทั่วไปที่แค่รู้จักวงไอดอลในลักษณ์นี้เคลือบแคลงมาตลอดว่า BNK48 จะมีเส้นทางการเติบโตต่อไปอย่างไร จะ “ดัง” ในกลุ่มคนเฉพาะเท่านั้น แล้ววงการการตลาดและโฆษณาจะเข้ามามีบทบาทหยิบเอาความนิยมของน้องๆ กลุ่มนี้ไปใช้ได้อย่างไร ดูเหมือนว่า ปีหน้าจะมีโมเดลที่จับต้องได้ มาทดลองให้เห็นแล้ว โดยมีบริษัท Online Influencer เล็งเห็นแนวทาง เมื่อมีลูกค้าเข้ามาแบบนี้….ความหวังเรื่อง Theater ก็คงใกล้เป็นจริงมากขึ้น โอตะขา รอกันหน่อยนะคะ แล้วอย่าลืมสมัคร Member Card ด้วย เพราะลำพัง Business Model ที่ขายสินค้ากับกลุ่มแฟนคลับซึ่งดำเนินการอยู่ในตอนนี้ คงไม่สามารถสร้างการเติบโตทางธุรกิจที่คุ้มค่า ยั่งยืน
รายงานโดย Rucky Love Bongkotsuang