ขณะที่แฟน ๆ Toys R Us กำลังใจสลายกับข่าวการพับกิจการในเดือนนี้ ผู้ค้าปลีกทั้งหลายก็กำลังมองหาโอกาสที่จะทำเงินให้ได้มากขึ้น
Amazon, Walmart และ Target ถูกวางตัวให้เป็นร้านค้าปลีกที่น่าจะได้รับประโยชน์จากการปิดตัวของ Toys R Us แต่ในจดหมายข่าวให้กับนักลงทุนในวันพุธที่ผ่านมานักวิเคราะห์ของ Credit Suisse ได้ให้เหตุผลว่า Target น่าจะเป็นตัวเต็งในครั้งนี้
จากการวิจัยพบว่า 90% ของ Toys R Us และ 96% ของร้านค้าในเครืออย่าง Babies R Us ตั้งอยู่ในระยะ 5 ไมล์ห่างจากร้าน Target
“การผสมผสานและทับซ้อนกันของพื้นที่ร้านที่ Target ทำไว้ ทำให้เราเห็นว่า Target น่าจะได้รับประโยชน์อย่างไม่เหมาะสม” จดหมายระบุ
Credit Suisse เปรียบเทียบสถานการณ์ระหว่าง Target และ Toy R Us กับการล้มละลายครั้งก่อนหน้าโดยใช้ hhgregg และ Sports Authority เป็นตัวอย่าง ในกรณีเหล่านี้ Best Buy และ Dick’s Sporting Goods มีแนวโน้มที่จะทำกำไรได้มากที่สุด แต่ในทั้งสองกรณีการซ้อนทับกันของทำเลร้านค้าก็ต่ำกว่า Target และ Toys R Us อย่างมาก
นักวิเคราะห์กล่าวว่า “มีการแข่งขันกันมากมาย แต่การซ้อนทับของ Target ก็สูงกว่ากรณีศึกษาที่ผ่านมาและควรจะมีตำแหน่งที่จะมีส่วนร่วมอย่างยุติธรรม”
Target มีร้านค้ากว่า 1,800 แห่งในสหรัฐอเมริการวมทั้งร้านออนไลน์ที่กำลังเติบโต
ในการยื่นล้มละลายในเดือนนี้ Toys R Us กล่าวโทษว่าเป็นเพราะ Target พร้อมกับ Walmart และ Amazon สำหรับการโบกมือลาของพวกเขา โดยอ้างว่าร้านค้าปลีกเหล่านี้แหละที่สร้าง “Perfect Storm” เพื่อฆ่าล้างวงการด้วยการชอบตัดราคาของเล่นในช่วงเทศกาลวันหยุด Toy R Us กล่าวว่าไม่สามารถเสนอราคาที่ต่ำได้เช่นนี้เนื่องจากพวกเขาต้องพึ่งพาของเล่นเพื่อหากำไร
แม้ว่า Target จะไม่รายงานยอดสินค้าขายของเล่นของพวกเขา แต่ก็เชื่อว่าการจากไปของผู้ขายของเล่นรายอื่นๆ Target จะกวาดต้อนลูกค้า ที่เคยเป็น “ผู้ภักดีต่อแบรนด์” ของ Toy R Us มาเป็นลูกค้าตัวเองได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ
Source
แปลและเรียบเรียงโดย Prim NM