ทศวรรษนี้คือความท้าทายอย่างยิ่งยวดของอุตสาหกรรมยานต์ยนต์ เมื่อวิทยศาสตร์ก้าวไกลกว่ายุคใดๆ ทำให้เกิดการผสานกันของเทคโนโลยี จนเกิดนวัตกรรมรูปแบบใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคมองหาหรือคาดหวัง ในขณะเดียวกันสำหรับอุตสาหกรรมขนาดใหญ่อย่างเช่น “อุตสาหกรรมยานยนต์” การขับเคลื่อนแต่ละครั้ง ต้องเป็นการลงทุนระดับมหาศาลที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงระดับโลกหรือในระดับภูมิภาคเป็นอย่างน้อย ดังนั้นถึงแม้ว่าจะมีระยะเวลาอีกถึง 12 ปี แต่ Honda ได้ประกาศวิสัยทัศน์ 2030 ออกมาแล้ว เพื่อขับเคลื่อนองค์กรให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน ด้วย 3 ประเด็นสำคัญ
1. Creating the Joy สร้างสรรค์ความยินดีให้ของการเคลื่อนที่และการดำเนินชีวิต
2. Expanding the Joy แบ่งปันความยินดี
3. Ensuring the Joys for the Next Generation ส่งต่อความยินดีนั้นสู่คนรุ่นต่อไป
จาก 3 ประเด็นที่ดูเหมือนจะเป็นรูปธรรม งานนี้ฮอนด้าแปลงเอาวิสัยทัศน์เหล่านี้ มาสร้างสรรค์ให้เป็นแนวคิด โปรดักท์ โปรเจ็กท์ทดลองมากมาย ที่ช่วยให้นักวิจัยของฮอนด้าได้เรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจให้กับมนุษยชาติ และเกิดประโยชน์สูงสุดกับผู้บริโภค
หัวใจสำคัญที่ฮอนด้าถอดรหัสออกมาและให้ความใส่ใจสูงสุดก็คือ “ความปลอดภัย” ลดความผิดพลาดที่เกิดขึ้นกับมนุษย์
โดยเทคโนโลยีที่ตอบสนองแนวคิดในเรื่องนี้อย่างเด่นชัดที่สุดในช่วงเวลานี้ ก็คือ Honda SENSING ระบบที่ผสานการทำงานของเรดาห์กับกล้อง เพื่อตรวจจับสภาวะแวดล้อมที่เกิดขึ้นบนท้องถนน และส่งสัญญาณแจ้งเตือน ไปจนถึงควบคุมรถในสถานการณ์ที่สุ่มเสี่ยงกับการเกิดอุบัติเหตุ เทคโนโลยีดังกล่าวถูกติดตั้งแล้วในฮอนด้า แอคคอร์ด ไฮบริดใหม่ทุกคัน
และที่ฮือฮาในวงการรถยนต์มากที่สุดในยุคนี้ก็คือ รถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ (Honda Automated Drive) ซึ่งฮอนด้าก็กำลังทดลองและพัฒนาอย่างเข้มข้น เพื่อทำให้การเดินทางในอนาคตสะดวกขึ้น โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้สูงอายุ ซึ่ง Aging Society นี้เป็นประเด็นทางสังคมที่ทั่วโลกกำลังจะก้าวเข้าสู่แนวโน้มภาวะประชากรลักษณะนี้ในระยะเวลาอันใกล้ เพื่อทำให้แนวคิดดังกล่าวเป็นความจริงมากที่สุดภายในปี 2025 ฮอนด้าอาศัยเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วย
การขับขี่อย่าง “สนุก” เป็นอีกโจทย์ที่ฮอนด้าต้องการนำเสนอให้ลูกค้า ฮอนด้าจึงพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ตอบสนองประสบการณ์ด้านนี้ให้กับผู้บริโภค ผ่านเครื่องยนต์ VTEC Turbo รุ่นที่มีในตลาดเมืองไทย เช่น Honda Civic ที่มีทั้งขุมพลังและรูปลักษณ์ความโฉบเฉี่ยว นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นกิจกรรม Sport Racing เพื่อตอกย้ำในเรื่องราวเหล่านี้เข้าไปอยู่ในใจผู้บริโภค
ที่มาภาพ : http://world.honda.com/
เทรนด์ “สิ่งแวดล้อม” เรื่องใหญ่แห่งยุคสมัย ฮอนด้า ซึ่งเป็นแบรนด์ชั้นนำของญี่ปุ่น ก็ไม่มีทางละเลยเรื่องเหล่านี้ได้เลย จนเป็นที่มาของการพัฒนาระบบพลังงานในลักษณะ Full Hybrid ยังคงขับขี่ด้วยความสปอร์ตได้อยู่ แต่ก็เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและลดการปล่อยมลพิษ ในประเทศไทย Honda Accord Hybrid ก็เป็นรถยนต์รุ่นแรกๆ ที่เข้ามาทำตลาดอย่างจริงจัง
งานวิจัยในเรื่องของพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ยังคงไม่หยุดยั้ง จนเป็นที่มาของ Honda Clarity Plug-in Hybrid รถยนต์ที่วิ่งด้วยพลังงานไฟฟ้าทั้งหมด และสามารถวิ่งได้ถึง 100 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟคราวละ 2.5 ชั่วโมง ซึ่งฮอนด้าก็เร่งพัฒนารถยนต์ภายใต้แนวคิดนี้อย่างต่อเนื่อง และยังมีรถยนต์พลังงานทางเลือกอื่น เช่น Honda ClarityElectric ไปจนถึง Honda Clarity Fuel-cell รถยนต์ที่วิ่งด้วยพลังงานเชื้อเพลิงไฮโดรเจน
ที่โดดเด่นที่สุดในชั่วโมงนี้ก็คงจะเป็น Honda EV Concept ที่มีทั้ง Sport, Urban และ NeuV รถยนต์ที่ติดตั้ง AI และตรวจจับคาดเดาอารมณ์ของผู้ขับขี่จากน้ำเสียง-สีหน้า จนเลือกฟังชั่นที่ทำให้การขับขี่ปลอดภัยสูงสุด!!! (นี่มันนิยายวิทยาศาสตร์ชัดๆ)
ไม่ใช่แค่เรื่องของรถยนต์เท่านั้น เทคโนโลยีและแนวคิดของฮอนด้า ยังใส่ใจ “การใช้ชีวิต” เพื่อช่วยให้มนุษย์ได้ใช้ ศักยภาพของตัวเองได้เกิดประสิทธิผลสูงสุดและง่ายที่สุด โปรเจ็กท์อย่างน้องหุ่นยนต์อาซิโม่ ซึ่งเรามักจะคุ้นชินกับ ภาพความเป็นเซเลบริตี้ต้อนรับแขก ความจริงแล้วนี่คือเทคโนโลยี และความสนุกที่ผสานกันอย่างลงตัวของทีม วิจัยและพัฒนาของฮอนด้า ที่ความจริงแล้วการเคลื่อนไหวของหุ่นยนต์อาซิโมเป็นที่มาของการ พัฒนา เครื่องช่วยเดิน (Walking Assist) ที่ช่วยให้ผู้สูงอายุ หรือผู้ป่วยติดเตียงได้เคลื่อนไหวได้ตามใจปรารถนา ผ่านเทคโนโลยี Robotic นอกจากนี้ยังมี Uni-CUB β พาหานะส่วนบุคคลแห่งอนาคต ที่หวังเป็ นตัวช่วยให้มนุษย์ เคลื่อนที่กันภายในอาคารหรือห้างสรรพสินค้าได้รวดเร็วมากขึ้น
และไอเดียที่ได้แรงบันดาลใจจากวิศวกรของฮอนด้าที่มาทำงานในประเทศไทย จนปิ๊ง! ขึ้นมาได้ว่า การออกแบบและนวัตกรรม น่าจะมีส่วนช่วยพ่อค้า-แม่ค้ารถเข็นประหยัดพลังงานมากขึ้น แถมดีไซน์ยังถึงดูดสายตาลูกค้า จนเป็นที่มาของ Honda RoboCas Concept หุ่นยนต์รถเข็น AI รถเข็นที่ใช้พลังงานไฟฟ้ามาเป็นตัวขับเคลื่อนแถมมีกิมมิคน่ารักๆ ตัวรถสามารถแสดงสีหน้าเล่นหูเล่นตากับลูกค้าได้ด้วย
ทั้งนี้เพื่อทำให้ทั้ง 3 ส่วนเติบโตอย่างยั่งยืน องค์กรก็ต้องเดินหน้าด้วยความสตรองไม่แพ้กัน ดังนั้นจึงนำมาสู่การเน้นที่ Business viewpoint to focus on บริหารทรัพยากรภายในองค์กรให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดในทุกๆ ด้าน ซึ่งในความเป็นจริงแล้วถ้าหากว่าจะทำให้เกิดนวัตกรรมขึ้นมาให้กับสังคมได้ ก็ต้องเกิดขึ้นจากองค์กรที่มีศักยภาพเป็นแรงผลักดันสำคัญ ด้วยวิสัยทัศน์ที่ว่าการขับเคลื่อนนั้น จะต้องก้าวเดินไปพร้อมกับความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคม