HomeCSRเพราะธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของคน… ไบโอฟาร์ม ต่อยอดโครงการ ใส่ใจพิทักษ์ชีวิต…ผู้พิทักษ์ป่า

เพราะธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของคน… ไบโอฟาร์ม ต่อยอดโครงการ ใส่ใจพิทักษ์ชีวิต…ผู้พิทักษ์ป่า

แชร์ :

เพราะธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของคน ซึ่งถ้าคนไม่มีธรรมชาติหรือไม่มีสภาพอะไรที่เป็นตัวจุดกำเนิดเลย ก็จะอยู่ยาก นี่คือคำพูดของหัวหน้าไพฑูรย์ อินทรบุตร  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ที่ได้กล่าวไว้ ทำให้เรื่องที่หลายคนมองว่าไกลตัว เป็นเรื่องใกล้ตัวที่ทุกคนต้องร่วมมือร่วมใจกันเพื่อช่วยเหลือและดูแลผืนป่า

ADFEST 2024

Santos Or Jaune

ในโอกาสที่บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ก้าวเข้าสู่ปีที่ 45 เพื่อตอกย้ำปณิธานมุ่งมั่นตอบแทนสังคม จึงต่อยอดโครงการ “ตู้ยา BIOPHARM เพื่อชุมชน” ที่จัดอย่างต่อเนื่องมาตลอด 3 ปีเต็มให้เป็นโครงการที่ครบถ้วนและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น โดยผุดโครงการ “45 ปีไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน…เติมยา เติมความห่วงใย” ดูแลสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้พิทักษ์ป่าและชุมชนโดยรอบทั้งผืนป่าตะวันตกและตะวันออก ลงพื้นที่เติมยาที่แรกพร้อมจัดงานแถลงข่าว ณ “เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี”  สำหรับการจัดตรวจสุขภาพประจำปีให้กับผู้พิทักษ์ป่า ได้รับความร่วมมือจากหน่วยแพทย์เคลื่อนที่โรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี ทั้งนี้เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าหรือคนเฝ้าป่าให้มีสุขภาพกายที่แข็งแรงและสุขภาพใจที่แข็งแกร่ง พร้อมสำหรับการดูแลทั้งผืนป่าและสัตว์ป่าของไทยให้ปลอดภัยและสมบูรณ์ยิ่งขึ้น

จากการพูดคุยกับเจ้าหน้าที่ผู้พิทักษ์ป่าหลายคนขณะรอเข้าคิวตรวจสุขภาพเบื้องต้น ทำให้ทราบว่า ทุกคนที่มาตรวจสุขภาพนั้น ไม่เคยได้รับการตรวจสุขภาพแบบนี้มาก่อน เนื่องจากไม่มีเวลาถ้าต้องไปตรวจถึงโรงพยาบาลในตัวเมือง ซึ่งเห็นว่าโครงการแบบนี้มีประโยชน์ ทำให้ได้ทราบถึงสุขภาพเบื้องต้นของตัวเองว่ามีความดันสูงหรือเป็นเบาหวานหรือไม่ ถ้ามีอาการผิดปกติจะได้ไปตรวจแบบละเอียดที่โรงพยาบาลต่อไปได้

หัวหน้าไพฑูรย์ อินทรบุตร  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี ได้กล่าวว่า “แม้ปัจจุบัน จะมีนวัตกรรมใหม่ๆ ในการดูแลผืนป่า เช่น ดาวเทียมสำรวจ อากาศยานไร้คนขับ เป็นต้น แต่การเดินเท้าลาดตระเวนในพื้นที่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าก็ยังคงมีความสำคัญอยู่ เนื่องจากการเดินเท้าลาดตระเวนสำรวจจะทำให้สามารถตรวจสอบได้ด้วยสายตา พบเห็นความผิดปกติและร่องรอยการกระทำผิดต่างๆในผืนป่าได้ตั้งแต่เริ่มต้น เช่น ต้นไม้ถูกตัดไปเพียงต้นเดียว ดาวเทียมอาจไม่สามารถค้นพบความผิดปกตินี้ได้ หรือพรานลักลอบเข้าพื้นที่ล่าสัตว์ป่าก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ถึงร่องรอยต่างๆได้เช่นกัน แต่การเดินเท้าลาดตระเวนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า สามารถตรวจสอบร่องรอยการกระทำผิดและวางแผนดำเนินการสกัดกั้นความเสียหายได้ รวมไปถึงการเดินเท้า ลาดตระเวนนั้น ยังได้พบเห็นความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต ร่องรอยของสัตว์ป่าหายากจากรอยเท้าบนพื้นดิน ส่วนการติดตั้งกล้องดักถ่ายสัตว์ป่านั้น ช่วยให้เราได้ข้อมูลของสัตว์ป่าหายาก เช่น แมวลายหินอ่อน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 สัตว์ป่าสงวนหายากมาก การจะค้นพบร่องรอยได้ก็มาจากการเดินเท้าสำรวจเช่นกัน”

สำหรับการเดินเท้าลาดตระเวนในแต่ละครั้งนั้น จะไปกันเป็นทีมอย่างน้อย 5 คน และเข้าป่าครั้งละ 3-5 วัน ซึ่งผู้พิทักษ์ป่าจะเจอกับสภาพอากาศที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ บางครั้งร้อน บางครั้งฝนตก อีกทั้งยังอาจต้องปะทะกับผู้ที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ในป่า รวมถึงสัตว์ป่าและแมลงที่มีพิษอันตราย จึงมีโอกาสที่จะเจ็บป่วยได้ ซึ่งปัญหาสุขภาพที่ผู้พิทักษ์ป่า มักจะพบเจอ ก็เช่น ไข้หวัดจากการที่ต้องนอนตากน้ำค้าง ตากฝนภายในป่า โรคเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหารที่เกิดจากการบริโภคน้ำที่ไม่สะอาด เนื่องจากจะต้องแบกสิ่งของมากมาย บางครั้งจึงจำเป็นต้องใช้น้ำจากแหล่งน้ำธรรมชาติในการบริโภคและอุปโภค ซึ่งมักจะเป็นน้ำในบ่อคูคลองที่ไม่สะอาด แม้ว่าจะมีการแกว่งสารส้มแล้วนำมาต้มก็ตาม แต่การแกว่งสารส้มก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำสะอาดเพียงพอ อีกทั้งยังอาจเป็นเพิ่มสารเคมีแปลกปลอมปะปนลงในน้ำด้วย ซึ่งน้ำที่ไม่สะอาดเพียงพอเหล่านี้ถูกนำมาใช้ในการหุงหาอาหาร  มาดื่มกิน ตลอดจนเป็นน้ำสำหรับรับประทานยา นับว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกสุขอนามัยสักเท่าไหร่ อาจทำให้เกิดอาการท้องเสียหรือรุนแรงกว่านั้นได้ เช่นเคยเกิดกรณีที่มีการนำน้ำจากแหล่งน้ำที่ไม่มีการไหลเวียนมาใช้บริโภค ปรากฏว่า ผู้พิทักษ์ป่าทั้ง 3 คนป่วยเป็นโรคฉี่หนู และเสียชีวิตไปหนึ่งราย

นอกจากนั้นก็ยังมีอันตรายจากแมลงตัวเล็กตัวน้อยที่มีพิษร้ายแรง เช่น เห็บป่าหรือจะเรียกว่า ตัวไรอ่อน ตัวการของโรคไข้รากสาดใหญ่ ที่สำนักงานสาธารณสุขเองก็มีการออกประกาศเตือนให้ระวัง ทั้งในส่วนของผู้พิทักษ์ป่าและนักท่องเที่ยว อาการคือมีแผลคล้ายรอยบุหรี่จี้ หลังถูกกัด 10-12 วันจะมีไข้สูง หนาวสั่นและปวดศีรษะ อ่อนเพลีย ปวดเมื่อยตัว ตาแดงและปวดกระบอกตา  ป้องกันด้วยการพักหรือตั้งแคมป์ในบริเวณที่โล่งเตียน  แต่งกายมิดชิด ไม่นั่งหรือนอนบนหญ้า ทายากันแมลงกัด ซึ่งการทำงานของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ล้วนหลีกเลี่ยงข้อห้ามเหล่านี้ได้ยาก อีกทั้งก็มีเรื่องของงูพิษอีกด้วย

“ความสำเร็จของการทำหน้าที่พิทักษ์ป่า ก็คือ สามารถดูแลให้ผืนป่าอุดมสมบูรณ์ ซึ่งความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าสามารถวัดจากการพบเจอเสือโคร่งได้ เพราะเสือโคร่งคือผู้ล่าที่อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร ดังนั้นถ้าพบเสือโคร่ง แสดงว่ามีสัตว์ป่าอีกมากมายในผืนป่าแห่งนั้น  เสือโคร่งจึงกลายเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของผืนป่า  ความสำเร็จในเนื้องานของผู้พิทักษ์ป่าอีกอย่างหนึ่งก็คือ ต้องสามารถบล็อกหรือปกป้องผืนป่าไม่ให้ถูกรุกราน จึงต้องมีการจับกุมชาวบ้านที่บุกรุกผืนป่าบ้าง ที่มักจะเข้าไปถากถางป่าหรือล่าสัตว์ป่า ตัดไม้ทำลายป่า โดยอ้างว่าเข้าไปหาของป่าเล็กๆน้อยๆ แต่ความจริงแล้วมีนายทุนสนับสนุนซะเป็นส่วนใหญ่ หากผู้พิทักษ์ป่ารักษาจำนวนต้นไม้ ปกป้องไม่ให้ไม่มีการรุกรานป่าอันนี้ก็คือว่าเป็นความสำเร็จของอาชีพคนเฝ้าป่าเช่นกัน” หัวหน้าไพฑูรย์ อินทรบุตร  หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี กล่าวทิ้งท้าย

ด้านนายปริญญา เปาทอง ผู้อำนวยการฝ่ายประสานงานองค์กร บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด ผู้นำนวัตกรรมเวชภัณฑ์ยาและอาหารเสริมเพื่อสุขภาพ  กล่าวถึงโครงการ 45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน…เติมยา เติมความห่วงใย  ว่า “บริษัท ไบโอฟาร์ม เคมิคัลส์ จำกัด คือบริษัทยาของคนไทยเพื่อคนไทย โดยในปี 2562 จะครบ 45 ปีแล้ว สิ่งที่ทางไบโอฟาร์มตั้งใจมาโดยตลอดก็คือ การโอบอุ้มดูแลทุกคุณค่าชีวิต สำหรับโครงการนี้ มุ่งเน้นไปที่การดูแลคุณภาพชีวิต และเสริมสร้างกำลังใจให้กับผู้พิทักษ์ป่าผู้ทำหน้าที่เสียสละเฝ้าป่าอันเป็นลมหายใจของพวกเราทุกคน หวังว่าสิ่งเล็กๆน้อยๆ ที่ไบโอฟาร์ม ได้เข้ามาช่วยเติมยา เติมความห่วงใย ประสานความร่วมมือกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ของโรงพยาบาลพหลพลพยุหเสนา จ.กาญจนบุรี ในการตรวจสุขภาพเบื้องต้น ได้แก่ ตรวจความดัน เบาหวาน ไปจนถึงให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเจ็บป่วยของผู้พิทักษ์ รวมไปถึงบอกเล่าถึงการปฐมพยาบาลในกรณีที่พบเจอสัตว์มีพิษร้ายแรง เช่น งูพิษ ตะขาบ แมงป่อง หรือเห็บป่า ตลอดจนการร่วมสำรวจผืนป่า เรียนรู้การทำงานอันเสียสละของผู้พิทักษ์ป่า  สิ่งเหล่านี้จะสร้างขวัญและกำลังใจให้กับเหล่าผู้พิทักษ์ป่าได้บ้าง”

ภายในตู้ยาไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน หรือถุงยาที่นำไปเติมให้ตู้ยาในปีก่อนๆ นั้น ทางไบโอฟาร์มได้จัดเตรียมยาสามัญที่จำเป็นไว้ดังนี้  ยาแก้แพ้อากาศ (Clarid) ครีมฆ่าเชื้อรา (Cotren) ครีมแก้คัน ผื่น (Clobet) ยาถ่ายพยาธิ (Alben) อาปราคัวร์ (APracur)ยาบรรเทาหวัดลดน้ำมูก ยาล้างตา  ยาล้างแผล ไฮโดรเจนเปอร์อออกไซด์ พลาสเตอร์แบบผ้า, สำลีแผ่น,  ครีมแก้ปวดเมื่อย (Flanil cream), แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อ, ยาแก้โรคกระเพาะ (Belcid) และยาแก้ปวด Paracetamol  เป็นต้น

หลังจากเปิดโครงการ 45 ปีไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน…เติมยา เติมความห่วงใย  ที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ จ.กาญจนบุรี เรียบร้อยแล้ว ทางไบโอฟาร์มก็จะลงพื้นที่มอบตู้ยาและยาให้กับอุทยานและเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าในเขตอื่นๆต่อไปอย่างต่อเนื่อง เช่น เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร เป็นต้น  รวมไปถึงเขตผืนป่าตะวันออก ได้แก่ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ทับลาน ปางสีดา ตาพระยา และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ เนื้อที่ประมาณ 3.8 ล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนของจังหวัดสระบุรี, นครนายก, นครราชสีมา, ปราจีนบุรี, สระแก้ว, และบุรีรัมย์ ซึ่งได้รับการประกาศให้เป็น “มรดกโลกทางธรรมชาติ” จากองค์การยูเนสโกเมื่อปี พ.ศ. 2548 ภายใต้ชื่อกลุ่ม “ดงพญาเย็น-เขาใหญ่” โดยตั้งเป้าตลอดโครงการฯ ในระยะ 1 ปี  โครงการ 45 ปี ไบโอฟาร์มเพื่อชุมชน…เติมยา เติมความห่วงใย จะมอบตู้ยา จำนวน 450 ตู้ และถุงยารวมทั้งสิ้น 900 ถุง

คนเราต้องมองว่า “ธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของคน ซึ่งถ้าคนไม่มีธรรมชาติหรือไม่มีสภาพอะไรที่เป็นตัวจุดกำเนิดเลย เราก็อยู่ยาก” ฉะนั้นแล้วเมื่อธรรมชาติคือป่า คือน้ำ คือสัตว์ป่า ความสมบูรณ์ของธรรมชาติ ก็คือ ความสมบูรณ์ทั้งของป่า  น้ำและสัตว์ป่า ลองคิดกันว่า เราไม่ทำลายธรรมชาติ มีจิตอนุรักษ์ ไม่ทิ้งขยะ ไม่กินสัตว์ป่า ไม่ทำความเสียหายให้กับแหล่งน้ำ เริ่มคิดจากจุดเล็กๆที่เราพอจะทำได้ ผลที่ได้จะสร้างแรงกระเพื่อมไปสู่จุดที่ใหญ่ขึ้นอย่างแน่นอน  หน้าที่การอนุรักษ์ป่าไม้ไม่ใช่ของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าเท่านั้น แต่เป็นหน้าที่ของพวกเราทุกคน


แชร์ :

You may also like