แบรนด์นารายา (Naraya) แบรนด์กระเป๋าผ้าสัญชาติไทย 100% ที่เกิดขึ้นจากฝีมือของ คุณวาสนา รุ่งแสนทอง ลาทูรัส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท นารายอินเตอร์เทรด จำกัด ซึ่งมีระยะเวลาที่อยู่ในตลาดเมืองไทยมายาวนานถึง 29 ปี เป็นแบรนด์สินค้าที่ชื่นชอบสำหรับนักท่องเที่ยวชาวเอเชีย จนได้รับกการยอมรับให้เป็นหนึ่งในสินค้าไทย ที่เมื่อเข้ามาเที่ยวในประเทศแล้ว จะต้องซื้อกลับไปเป็นของฝาก ทำให้สาขาที่อยู่ในจุดซึ่งนักท่องเที่ยวเดินทางไปถึง มียอดขายพุ่งสูงมากเป็นอันดับต้นๆ โดยเฉพาะสาขาเซ็นทรัลเวิล์ด ที่มักจะเห็นบรรดานักท่องเที่ยวแห่ซื้อสินค้าแน่นร้านจนล้นออกมาด้านนอก และเพื่อทำให้การจับจ่ายของลูกค้าเป็นเรื่องที่เข้ากับยุคสมัยมากขึ้น วันนี้ (1 กรกฏาคม) สาขาดังกล่าว ได้รับการปรับโฉมใหม่ให้มีความทันสมัย น่าสนใจ แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ “Luxury Affordable” หรือ “สินค้าดีราคาไม่แพง” และกลายเป็นแหล่งช้อปปิ้ง ที่ลูกค้าจะได้รับประสบการณ์การซื้อสินค้าที่มากขึ้นไปกว่าเดิม
โดยมีประเด็นต่างๆ ที่น่าใจเกี่ยวกับสาขาแห่งนี้ 5 ประเด็น ประกอบด้วย
1.สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด นับเป็นสาขาที่ 4 ของการดำเนินธุรกิจ ซึ่งราคาค่าเช่าถือว่าสูงเมื่อเทียบกับสาขาอื่นๆ แต่เพียงแค่ครึ่งวันแรกที่เปิดขายสินค้า ถือว่าได้รับการตอบรับจากลูกค้าจนเป็นที่น่าพอใจ และถึงจุดคุ้มทุนของค่าเช่าพื้นที่ ส่วนสาขาแรกของนารายา เริ่มต้นที่ร้านนารายณ์ภัณฑ์ (ปัจจุบันพื้นที่ร้านนารายณ์ภัณฑ์ เป็นที่ตั้งของอาคารเกษรทาวน์เวอร์) ด้วยขนาดร้าน 2×4 เมตร
2.สาขาเซ็นทรัลเวิล์ด ในอดีตนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มีความเชื่อว่าเป็นสาขาที่จำหน่ายสินค้านารายาของแท้ หากซื้อที่อื่นสินค้าจะเป็นของปลอม
3.เป็นสาขาที่มีแบรนด์สินค้าของนารายามากที่สุด ถึง 5 แบรนด์ โดยได้เปิดตัวแบรนด์ใหม่ เข้ามาวางจำหน่ายภายในร้านอีก 4 แบรนด์ ได้แก่
-NARA เป็นแบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ โดยมีเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ ความมีเสน่ห์ ลงตัว คล่องแคล่ว เรียบง่าย แต่มีรายละเอียด
–Aphrodite แบรนด์กระเป๋าและเครื่องประดับตกแต่งสำหรับผู้หญิง ซึ่งเป็นการยกระดับขึ้นมาจากแบรนด์นารายา โดยเอกลักษณ์ของแบรนด์ นั่นคือ ความสง่างามจากผู้สร้าง ต่อยอดจากกระเป๋าที่ทุกคนเป็นเจ้าของได้ สู่ความพรีเมียม ที่ช่วยเสริมสร้างความมั่นใจ และความงามให้ผู้หญิงทุกคน มีความเรียบง่าย สง่างาม จากการออกแบบที่ช่วยสะท้อนประกายความเป็นตัวคุณ
–LaLaMa แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งสไตล์โบฮีเมียน ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ปัจจุบัน ซึ่งสินค้าที่นำมาจำหน่ายจะมีเฉพาะกระเป๋า
–Evangelisa แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับตกแต่งจากผ้าไหม ผ้าไหมไทยร่วมสมัย สามารถใช้ได้ทุกวัน และยังนำมามิกซ์แอนด์แมทช์ให้เข้ากับคาแรคเตอร์ของผู้ใช้ เป็นแบรนด์ที่เต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์ ความเรียบหรู สะท้อนตัวตนที่แตกต่าง มีชีวิตชีวาและหลากหลาย
4.ใช้งบลงทุน 50-60 ล้านบาท เพื่อปรับโฉมให้มีความทันสมัยและหรูหรา ด้วยโทนสีทอง ด้วยขนาดพื้นที่ 420 ตารางเมตร ทำให้สามารถมีสินค้าวางจำหน่ายได้ครบ ซึ่งสาขานี้จะเป็นต้นแบบในการขยายสาขาใหม่ๆ เพิ่มเติมในปีหน้า
5.สาขาคอนเซ็ปต์ใหม่ที่มุ่งเน้นสร้างประสบการณ์การซื้อสินค้าที่มากขึ้น มีการนำเอาเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการเสริมงานขายสินค้า อาทิ การใช้ป้ายโฆษณาแบบดิจิทัล การนำเทคโนโลยี Magic Mirror ที่มาช่วยในด้านการทดลองสินค้า ที่สามารถเลือกสีและแบบสินค้าได้ เมื่อยืนอยู่ด้านหน้ากระจก และสามารถสั่งงานด้วยการสัมผัสหน้าจอ หรือแสดงท่าทาง เพื่อเปลี่ยนสีหรือแบบของสินค้า
นอกจากนี้ ยังเพิ่มประสบการณ์การซื้อสินค้าให้กับลูกค้า หากพบว่าสินค้าภายในร้านรุ่น หรือสีที่เลือกหมดสต็อก ลูกค้าสามารถสั่งผ่าน Magic Mirror หรืออุปกรณ์สื่อสาร เพื่อสั่งสินค้าเพิ่มเติม โดยสามารถใช้บริการจัดส่งสินค้าไปยังโรงแรม ที่พักได้ หรือจะให้จัดส่งไปยังต่างประเทศก็สมารถทำได้ด้วย ถือว่านารายาเป็นรายแรกที่นำเทคโนโลยีดังกล่าวเข้ามาใช้
ทุ่ม 1,000 ล้าน ปูพรมเปิดสาขาเพิ่อมอีก 13 สาขา
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจในปีนี้ นารายา ได้ทุ่มงบประมาณ 1,000 ล้านบาท เพื่อใช้ในด้านการทำตลาดและการขยายสาขาเพิ่มให้ครบ 38 สาขา โดยตั้งเป้าหมายว่าปีนี้จะสร้างการเติบโตในอัตรา 10% จากปีที่ผ่านมามีรายได้ 1,600-1,700 ล้านบาท ในขณะเดียวกันก็ขยยช่องทางการขายใหม่ๆ ไม่ยึดติดแค่ Physical Store แบบดั้งเดิมเท่านั้น
“ทุกบิสิเนส ไม่สามารถอยู่กับที่ได้ ลูกค้าเปลี่ยนไป การตลาดเปลี่ยนไป ลูกค้าอยู่บ้านก็ช้อปปิ้งได้ ลูกค้ามีพฤติกรรมเปลี่ยน สนุกกับการช้อปปิ้งออนไลน์ ปีนี้จึมีการขยายช่องทางออนไลน์เพิ่มเติม ทั้ง Lazada, Shopee, JD.com แต่เรายังเชื่อมั่นว่า การซื้ออะไรยังอยากจะหยิบจะจับ คุณภาพเป็นอย่างไร วัตถุดิบเป็นอย่างไร จึงเป็นสาเหตุที่เรายังคงขยายสาขาในปีนี้ 13 สาขา แต่ร้านจะไม่ใหญ่ที่สุดเหมือนในอดีต 400-500 ตารางเมตรแล้ว แต่จะมีหลากหลายขนาด และหลายพื้นที่ สาเหตุที่ปรับปรุงร้านสาขาเซ็นทรัลเวิล์ด เพราะมีความเชื่อว่าถ้าจะซื้อนารายาต้องมาสาขาเซ็นทรัลเวิล์ด และจะได้ของแท้ ซึ่งความจริงไม่ว่าซื้อที่ไหนก็เป็นของแท้ ถ้ามีโลโก้นารายา”
ปัจจุบันกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ถือเป็นฐานลูกค้าสำคัญหลักของแบรนด์นารายา ยังคงเป็นกลุ่มคนจีนมาเป็นอันดับ 1 รองลงมาเป็นชาวญี่ปุ่น และเกาหลี ซึ่งในอดีตลูกค้าที่มากเป็นอันดับ 1 คือ ชาวญี่ปุ่น แต่จากจำนวนนักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเพิ่มมากขึ้น จึงมีฐานลูกค้าที่มาก โดยสัดส่วนยอดขายหลักของนารายา มาจากชาวต่างชาติมากถึง 75-80%