เมื่อไตรมาสแรกปีนี้ Gartner บริษัทวิจัยและวิเคราะห์ข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศ ระบุภาพรวมของตลาดสมาร์ทโฟนยังเติบโตจากสมาร์ทโฟนรุ่นกลาง-ล่าง ที่มีคุณภาพดีขึ้น ดึงดูดให้คนที่ไม่เคยใช้สมาร์ทโฟนเลยหันมาใช้กันมากขึ้น ขณะที่ตลาดระดับบนมีความต้องการที่ลดลงจากราคาเครื่องที่แพงขึ้น ขณะที่ฟีเจอร์เพิ่มเข้ามาไม่ดึงดูดมากพอ
ปัจจัยข้างต้น คาดส่งผลให้ทิศทางการแข่งขันสมาร์ทโฟนกลุ่มตลาดกลาง-ล่างในครึ่งหลังปีนี้ทวีความร้อนแรงไม่น้อย ขณะเดียวกันก็เป็นความท้าทายของเจ้าของสมาร์ทโฟนแบรนด์ต่างๆ ที่เตรียมเปิดโปรดักส์ระดับไฮเอนด์ออกสู่ตลาด ที่ยังจะต้องวางตำแหน่งสินค้าให้ออกมาโดนใจ ไปพร้อมกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับแบรนด์สินค้าเข้าไปอีก เพื่อสร้างเซอร์ไพรส์ให้กับคนดู (อันที่จริงคือผู้ซื้อ) ที่เห็นแล้วจะต้องร้องว้าว!
เช่นเดียวกับที่แบรนด์ออปโป้ (OPPO) ได้ออกมาเปิดตัวสินค้ารุ่นใหม่ไปเมื่อกลางเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา คือ OPPO Find X ชูความโดดเด่นด้านการออกแบบแบบล้ำๆ และฟีเจอร์ซ่อนกล้อง 3D สนนราคาอยู่ที่ 29,990 บาท และในรุ่น Automobili Lamborghini Edition ที่มาพร้อมนวัตกรรมชาร์จไว ล่าสุด Super VOOC ราคา 49,990 บาท ซึ่งรุ่นหลังจะทำตลาดในเดือนกันยายน ปีนี้ โดยสมาร์ทโฟน OPPO ทั้งสองรุ่นนี้จ่อเข้าไปทำตลาดระดับบนอย่างแน่นอน
สอดคล้องกับที่ ชานนท์ จิรายุกุล ผู้บริหารสูงสุดฝ่ายขาย บริษัท ไทย ออปโป้ จำกัดกล่าวในงานกิจกรรมฉลองครบรอบ 10 ปี OPPO (10th Year Anniversary) ประเทศไทย ไปเมื่อวันที่ 18 กรกฎาคม ที่ผ่านมา ว่าในปี 2561นี้ ออปโป้วางเป้าหมายสู่การเป็นแบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในประเทศไทย ภายใต้กลยุทธ์การทำตลาดมุ่งให้ความสำคัญภาพลักษณ์แบรนด์ของคนรุ่นใหม่ การออกแบบที่โดดเด่นเรื่องแฟชั่น และขยายฐานกลุ่มผู้บริโภคไฮเอนด์มากขึ้น รวมทั้งการมีผลิตภัณฑ์ที่ดี จากการวิจัยและพัฒนาต่อเนื่อง
“จากการศึกษาข้อมูลตลาดสมาร์ทโฟนไทยในปี 2560 พบว่าตลาดในภาพรวมยอดจำหน่ายลดลงไปประมาณ 7% แต่สัดส่วนมูลค่าของตลาดกลับเพิ่มขึ้นประมาณ 4% สะท้อนว่าพฤติกรรมผู้บริโภคที่เริ่มหันมาซื้อสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์ ซึ่งออปโป้จะเริ่มรุกตลาดไฮเอนด์โดยประเดิมด้วย OPPO Find X และ OPPO Find X Automobili Lamborghini Edition ที่คาดว่าจะได้รับกระแสตอบรับอย่างดีจากผู้บริโภค” ชานนท์ กล่าว
ทั้งนี้ ยังเป็นทิศทางเดียวกับนโยบาย ออปโป้บริษัทแม่ ประเทศจีน ที่วางไว้โดยมุ่งให้ความสำคัญในการพัฒนาวิจัยนวัตกรรม และเทคโนโลยีสินค้าสมาร์ทโฟน เพื่อรองรับเทคโนโลยี4 จี และ 5 จีในอนาคตด้วยเทคโนโลยีที่ชาร์จไฟอย่างรวดเร็ว VOOC โดยวิเคราะห์จากพฤติกรรมของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในยุคนี้ ที่มีการใช้งานบ่อยขึ้น ทั้งถ่ายรูป การใช้งานโซเชียลมีเดีย สมาร์ทโฟนจึงต้องใช้งานได้นานขึ้นและชาร์จไฟได้เร็วขึ้น เพื่อตอบโจทย์พฤติกรรมผู้ใช้งานยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง
ส่งผลให้สินค้าภายใต้แบรนด์ OPPO ที่เข้ามาทำตลาดในไทยตลอดช่วง10 ปีที่ผ่านมาเติบโตเพิ่มสูงขึ้น กระทั่งครองแชมป์อันดับ 2 ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนสูงสุดในตลาดประเทศไทย และอันดับ 4 ยอดจำหน่ายสมาร์ทโฟนสูงสุดทั่วโลก ท่ามกลางการแข่งขันอย่างสูง (อ้างอิงข้อมูลจาก Canalysและ IDC ในปี 2017)
ซึ่งภายในงานฉลองครบรอบ 10 ปี ยังมีเหล่าดาราและเซเลปชื่อดังมากมายมาร่วมแสดงความยินดีในครั้งนี้ด้วยอาทิ เช่น ณเดชน์ คูกิมิยะ OPPO ตัวแทนผลิตภัณฑ์ OPPO F5 สมาร์ทโฟนฟีเจอร์โดนใจแห่งการเซลฟี่ ด้วยความละเอียดสูง 20MP และ ระบบ AI วิเคราะห์ใบหน้าเพื่อทำการเกลี่ยผิวให้เรียบเนียนเป็นธรรมชาติ ญาญ่า-อุรัสยา เสปอร์บันด์ ตัวแทนแห่งความทันสมัยสำหรับ OPPO F7 ด้วยสเปคเครื่องและดีไซน์ใหม่ และ พรีเซนเตอร์ OPPO ล่าสุดปีนี้
นอกจากนี้ภายในงานดังกล่าวยังมีคนดังอีกมายมาย ทั้ง เอ ศุภชัย ปั๊บ โปเตโต้ แบงค์ ธิติ มหาโยธารักษ์ โบวี่ อัฐมา ชีวนิชพัน เพื่อย้ำภาพลักษณ์สมาร์ทโฟนของคนรุ่นใหม่ที่ทันสมัยและต้องการความต่างที่ไม่เหมือนใคร
หากลองพิจารณารายละเอียดสินค้ารุ่น OPPO Find X แบบรอบด้านแล้ว ถือว่าลงตัวทีเดียวสำหรับการเป็นสมาร์ทโฟนแห่งโลกอนาคต และยังสะท้อนถึง ดีเอ็นเอของแบรนด์ OPPO ที่นำเทคโนโลยีและความสวยงาม มารวมกันไว้อย่างลงตัว โดยเฉพาะดีไซน์หน้าจอแสดงผลสุดขอบแบบไร้รอยต่อ เทคโนโลยีซ่อนกล้องและเซ็นเซอร์ Stealth 3D Cameras
นอกจากนี้ OPPO Find X ยังมาพร้อมกับ CPU สุดแรงแต่ใช้พลังงานที่น้อยกว่า และชิพประมวลผลกราฟฟิก Adreno 630 เพิ่มการประมวลผลกราฟฟิก 30% และลดการใช้พลังงานลง 30% รวมถึงชิพเซต Snapdragon 845 AIE ที่มาพร้อมปัญหาประดิษฐ์ AIE ที่ช่วยสนับสนุนให้ OPPO Find เสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวสุดล้ำ
ขณะที่รุ่นพิเศษ OPPO Find X Automobili Lamborghini Edition ถือเป็น Strategic Product สำคัญของแบรนด์ออปโป้ที่น่าสนใจไม่น้อย ในการผนึกพาร์ทเนอร์แบรนด์ยานยนต์ไฮเอนด์ระดับโลก โลโก้ Automobili Lamborghini ที่ถูกนำมาแกะสลักไว้บนสมาร์ทโฟนออปโป้ในรุ่นนี้ ด้วยเทคโนโลยีพิเศษทำให้โลโก้ดูนูนขึ้นมาจากตัวโทรศัพท์แบบมีมิติทุกมุมมอง พร้อมรองรับเทคโนโลยี SuperVOOC ซึ่งจะช่วยให้การชาร์จไฟได้รวดเร็วขึ้น โดยให้กำลังไฟ 10V5A ให้กำลังชาร์จได้สูงสุดถึง 50W เพียง 35 นาที เต็ม 100%
นั่นทำให้ OPPO เป็นอีกหนึ่งแบรนด์สมาร์ทโฟนที่น่าจับตามอง ในครึ่งปีหลัง 2561 นี้ เพราะมาครบทั้งการลุยเปิดตัวสินค้าใหม่กลุ่มไฮเอนด์ทั้ง 2 รุ่นดังกล่าว และ แคมเปญการตลาดที่ครบครัน