Coca-Cola ตกลงซื้อหุ้นของ Bodyarmor เครื่องดื่มเกลือแร่ ซึ่งเป็นของนักบาสเก็ตบอลชื่อดังอย่าง Kobe Bryant ถือเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ที่สะท้อนภาพความตั้งใจในการขยายพอร์ตโฟลิโอให้มากกว่าเครื่องดื่มน้ำอัดลม
Coke จะกลายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับสอง ตามหลังผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง Mike Repole ผู้ที่เป็นทั้งผู้ร่วมก่อตั้งและประธานบริษัท อย่างไรก็ตาม ข้อตกลงดังกล่าวไม่เป็นที่เปิดเผยว่า โค้ก จะมีส่วนในการตัดสินใจเกี่ยวกับเครื่องดื่มแบรนด์นี้มาก-น้อยขนาดไหน แต่มีข่าวว่า Kobe Bryant ได้ผลตอบแทนจากดีลนี้ถึง 200 ล้านเหรียญสหรัฐ หลังจากที่ลงทุนในเครื่องดื่มแบรนด์นี้ 6 ล้านเหรียญสหรัฐ เมื่อ 4 ปีก่อน
Bodyarmor เป็นเครื่องดื่มที่สกัดจากน้ำมะพร้าว วิตามิน และ โพทาสเซียม ซึ่งทางโคคา-โคล่า แถลงว่าดีลนี้ “จะช่วยขยายผลิตภัณฑ์ตลาดเครื่องดื่มเกลือแร่แข็งแรงขึ้นในระบบของเรา แม้ว่าพอร์ทโฟลิโอเครื่องดื่มเกลือแร่ของเราไปได้สวยอยู่แล้ว”
ตลาดน้ำเกลือแร่ในสหรัฐอเมริกามีมูลค่าสูงถึง 9.2 พันล้านเหรียญ โดยมีแบรนด์ Gatorade ของ PepsiCo เป็นผู้นำในตลาด การเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคทำให้อัตราการบริโภคเครื่องดื่มน้ำอัดลมลดลงอย่างเห็นได้ชัด ทำให้ค่ายเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ ทั้ง Pepsi และ Coca-Cola ต่างก็เร่งหาเครื่องดื่มอื่นๆ เข้ามาในพอร์ต
เดือนที่แล้ว Coke ก็เปิดเผยยอดขายและกำไรที่เกินความคาดหมายการประมาณการของนักวิเคราะห์ ซึ่งมาจากความกล้าหาญที่ Rebranding เครื่องดื่มอย่าง Diet Coke และยอดขายที่เพิ่มขึ้นของ Coca-Cola Zero Sugar ซึ่งจะเห็นได้ว่าถึงแม้จะเป็นเครื่องดื่มน้ำอัดลมก็จริง แต่ก็เห็นถึงความพยายามจะลดน้ำตาลลงอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน James Quincey ซีอีโอของ Coca-Cola ก็ผลักดันให้บริษัทเป็น “บริษัทเครื่องดื่มทุกชนิด” มากกว่าจะยึดติดแค่โค้กเพียงอย่างเดียว
และการลงทุนล่าสุดจะทำให้ Bodyarmor สามารถเข้าถึงระบบการผลิตของ Coke ได้อย่างเต็มที่ ส่วน Bryant จะกลายมาเป็นผู้ถือหุ้นส่วนหนึ่งในผู้ผลิตเครื่องดื่มกีฬาในปี 2013 หลังจากที่เกษียณจากอาชีพนักกีฬาบาสเก็ตบอลอาชีพในปี 2016 ในฐานะตำนานแห่ง LA Lakers และบทบาทของ Bryant ก็ยังเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ของแบรนด์ต่อไป