กว่า 5 ปีที่ผ่านมา สื่อโซเชียลทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Twitter, Facebook, LinkedIn, Youtube เพิ่มบทบาทความสำคัญให้กับการวางกลยุทธการตลาดของหลายๆบริษัท แต่ทว่ายังคงมีความเข้าใจผิดๆเกี่ยวกับการใช้สื่อโซเชียล เพื่อกระตุ้นยอดขายและการบริการที่คุ้มค่ากับการลงทุนทั้งเวลาและทรัพย์สินของบริษัท
ข้อ 1. ถ้าไม่ไวรัลไม่ฮิตอย่าไปทำ
หากพูดถึงความสำเร็จของการตลาดบนสื่อโซเชียล หลายๆคนมักนึกถึงการทำแคมเปญใหญ่ๆที่มียอดผู้เข้าชมเป็นล้านๆ เช่น แคมเปญของ Old Spice หรือ Blentec’s Will It Blend แต่ทว่าความสำเร็จของการตลาดบนสื่อโซเชียลนั้นไม่ใช่เพียงดังพลุแตกแค่ครั้งเดียวแต่ต้องเพิ่มความนิยมไปเรื่อยๆ ทั้งนี้แคมเปญที่ดีที่สุดต้องเป็นที่น่าสนใจและไม่เหมือนใคร อีกทั้งมีการพูดต่อๆกันซึ่งจะช่วยให้คุณเพิ่มผู้ชม (แฟนๆ) ได้เรื่อยๆ
ข้อ 2. ลูกค้าสูงวัยไม่ต้องใช้สื่อโซเชียลหรอก
56 เปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้อินเทอร์เน็ตอายุ 50 ปี หรือมากกว่านั้นใช้เฟสบุ๊ก ดังนั้นมีลูกค้าอีกมากทั้งปัจจุบันและกำลังจะมาเป็นลูกค้าของคุณในอนาคตกำลังรอให้คุณเข้าไปหาพวกเขาในเฟสบุ๊ก รวมถึง Twitter, LinkedIn, Pinterest, Instagram และสื่อโซเชียลอื่นๆ
ข้อ 3. Google+ เสียเวลา
ที่จริงแล้ว Google+ ไม่ได้ถูกนับรวมเข้ากับสื่อโซเชียลอื่นๆเนื่องจากมันเป็นการพัฒนาอีกขั้นของ Google ในการใช้หาข้อมูล (Search) ส่งอีเมลล์ (Gmail) หรือแม้แต่ใช้ดูYoutube การมีบัญชีชื่อ Google+ ที่เชื่อใจได้สำหรับการทำธุรกิจและความสัมพันธ์ต่อลูกค้าที่ให้ความเชื่อมั่นโดยการเพิ่มคะแนน +1 ให้กับบริษัทและสินค้าของคุณเป็นเพียงการวัดผลในเชิงการหาข้อมูลแบรนด์ของคุณและการเพิ่มจำนวนการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ
ข้อ 4. ทวิตเตอร์เหมาะกับเซเลบและแบรนด์ดังเท่านั้น
ไม่ใช่เพียงดาราดังอย่างแอชตัน คุชเช่อร์ เท่านั้นที่ต้องการให้มีคนติดตามบนทวิตเตอร์เป็นจำนวนมาก แต่ทวิตเตอร์ยังมีความสำคัญและมีค่ากับธุรกิจท้องถิ่นแม้จะมีขนาดเล็กแต่มีกลุ่มเป้าหมาย อย่างไรก็ตาม คุณจำเป็นต้องทวีตข้อความให้ถูกเวลา มีประโยชน์ต่อลูกค้าและไม่ทำเพื่อประชาสัมพันธ์ตัวเองเกินไปเพื่อให้การใช้งานทวิตเตอร์เกิดประโยชน์มากที่สุด อีกทั้ง ต้องมั่นใจว่าคุณใช้ทวิตเตอร์เพื่อเฝ้าสังเกตและสร้างความผูกพันกับผู้ใช้อื่นๆที่เอ่ยชื่อบริษัทและสินค้าของคุณ
ข้อ 5. โฆษณาเฟสบุ๊กได้แค่จำนวน Like แต่ไม่ใช่จำนวนลูกค้า
สองสามปีที่ผ่านมา นักโฆษณาทั้งหลายต่างเลียนแบบการโฆษณาที่ประสบผลสำเร็จบนเฟสบุ๊กทั้งสิ้น ทั้งลงทุนเงินเพื่อเพิ่มจำนวนฐานแฟนคลับโดยขาดความเข้าใจที่แท้จริงเกี่ยวกับค่าของไลก์ (Likes) หรือแฟนคลับ อีกทั้ง ไม่คำนึงถึงผลตอบแทนที่จะได้รับจากการลงทุน แต่หากทำถูกวิธี เฟสบุ๊กเป็นเครื่องมืออันทรงพลังสามารถช่วยเพิ่มแฟนคลับ ความเชื่อมั่นของลูกค้าและดึงดูดลูกค้าใหม่ให้กับบริษัทคุณได้ในระยะเวลาอันสั้นเพื่อสร้าง Brand Loyalty ให้กับสินค้าของคุณด้วย
ข้อ 6. ยิ่งโพสบนเฟสบุ๊กยิ่งประสบผลสำเร็จ
การโพสมากกว่าหนึ่งโพสต่อวันอาจจะมากเกินไปด้วยซ้ำ ดังนั้นการโพสต์บ่อยครั้งเกินไปสามารถทำให้จำนวนไลก์ คอมเม้นท์และการแบ่งปันข้อความแต่ละครั้งโดยรวมลดลงได้ ตั้งแต่ที่เฟสบุ๊กมี EdgeRank เพื่อช่วยจัดเรียงโพสต์จากบริษัทที่มีค่า Engagement Rate สูง อาจมีผลให้คนที่จะสามารถเห็นโพสครั้งต่อๆไปได้มีจำนวนไม่มากนัก อย่างไรก็ตาม การสร้างแคมเปญบนเฟสบุ๊กที่ประสบผลสำเร็จที่แท้จริงนั้นต้องมั่นใจว่าคุณโพสสิ่งที่ต่างไปจากคนอื่นๆ น่าสนใจและเป็นที่ดึงดูด อีกทั้ง ต้องประกอบไปด้วยรูปภาพหรือลิ้งค์ซึ่งมี Engagement Rate ที่สูงกว่าการโพสบทความทางสถิติเพียงอย่างเดียว
ที่มา : INC