จังหวัดภูเก็ต นับเป็นจังหวัดที่มีเศรษฐกิจเจริญเติบโตเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเฉพาะด้านการท่องเที่ยว ซึ่งมีศักยภาพและความพร้อมรองรับนักท่องเที่ยวแทบทุกด้าน และเป็นจุดหมายปลายทางสำคัญของนักท่องเที่ยวทั่วโลก ต้องการเข้ามาเยือน ทำให้รายได้จากการท่องเที่ยวของจังหวัดภูเก็ตติดอันดับ Top 3 ทำรายได้สูงสุดของประเทศ ในช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน 2561 ด้วยมูลค่าสูงถึง 22,080 ล้านบาท ส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติไปเยือนจังหวัดภูเก็ตมีไม่ต่ำกว่า 13 ล้านคน แต่สำคัญกว่าปริมาณ คือ คุณภาพนักท่องเที่ยว ซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ พร้อมใช้จ่ายเงินด้านการท่องเที่ยว
นี่คงเป็นเหตุผลสำคัญทำให้ CPN หรือ บริษัท เซ็นทรัลพัฒนา จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายการลงทุน ปั้น “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ลักชัวรี่แฟล็กชิพแบรนด์ใหม่ มูลค่าโครงการรวมกว่า 20,000 ล้านบาท หลังจากปักหมุดกับโครงการแรก “เซ็นทรัล เฟสติวัล ภูเก็ต” ไปเมื่อ 14 ปีที่แล้ว โดยหวังว่าจะเป็นส่วนสำคัญผลักดันให้ภูเก็ตเป็น WORLD-CLASS MICE CITY สร้างรายได้และหนุนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภูเก็ตให้เติบโต มีเงินสะพัดเพิ่มขึ้นจากเดิมอีกกว่า 30,000 ล้านบาท โดยเตรียมงบประมาณรวมกว่า 3,000 ล้านบาทผลัดดันแผนธุรกิจดังกล่าว
เจาะตลาด 3 กลุ่มนักท่องเที่ยวคนรวย
จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องของตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติ และคาดการณ์อีก 2-3 ปีข้างหน้า จำนวนนักท่องเที่ยวจะพุ่งไปถึง 20 ล้านคน เดินทางมาเยือนจังหวัดภูเก็ต โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวคุณภาพ จึงทำให้กลุ่มนักท่องเที่ยวดังกล่าวเป็นเป้าหมายสำคัญของ CPN ที่ต้องการเจาะตลาดและดึงให้เข้ามาใช้บริการ ใน 3 กลุ่มหลัก ได้แก่
1.กลุ่ม Rich Asian Millennials คนรวยชาวเอเชียกลุ่มมิลเลนเนียล อาทิ ชาวจีน เกาหลี ญี่ปุ่น ไต้หวัน ฮ่องกง สิงค์โปร์ และมาเลเซีย เป็นต้น ถือเป็นกลุ่มคนวัยทำงานมีรายได้สูงไม่ต่ำกว่า 60,000 บาทต่อเดือน มีการงานที่ดี ประสบความสำเร็จรวดเร็ว มีจำนวนมากถึง 60% จากมิลเลนเนียลทั่วโลกมีอยู่กว่า 70 ล้านคน
2.European High Spenders นักท่องเที่ยวชาวยุโรปกำลังซื้อสูง อาทิ ชาวรัสเซีย เยอรมัน และอังกฤษ เป็นที่เน้นพักผ่อนระยะยาว ชื่นชอบสินค้าไทย และความเป็นไทย
3.กลุ่มนักธุรกิจเดินทางประชุม หรือ Bluxury (Business + Luxury) เป็นกลุ่มนักธุรกิจเดินทางเพื่อประชุม สัมมนา หรือ Incentive Trip เป็นนักธุรกิจที่มีรายได้สูง พักผ่อนแบบพรีเมี่ยม
ทุ่ม 1,000 ล้าน พร้อมตั้งแผนกเฉพาะดึง “นักท่องเที่ยว”
คุณวัลยา จิราธิวัฒน์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร CPN เล่าว่า เป้าหมายสำคัญของ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ต้องการจับตลาดนักท่องเที่ยวในสัดส่วนถึง 50% สูงกว่าศูนย์การค้าอื่นๆ ของ CPN แม้แต่เซ็นทรัลเวิร์ล ซึ่งอยู่ใจกลางกรุงเทพก็มีสัดส่วนนักท่องเที่ยวอยู่ราว 30% สำหรับเซ็นทรัล ภูเก็ตที่หวังนักท่องเที่ยวมากพอๆ กับกลุ่มคนไทย ทำให้ CPN ทุ่มงบการตลาด 500 ล้านบาท จากงบการตลาดสำหรับนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งหมด 1,000 ล้านบาท ไปใช้เฉพาะกับ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” ไม่ว่าจะเป็นการจัดงาน Grand Opening ในวันที่ 10 กันยายน 2561 การจัดงานอีเวนท์อื่นๆ ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง
โดย CPN จัดตั้งแผนกการตลาดการท่องเที่ยวหรือ Tourist Marketing ขึ้นมาดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวออกมาอย่างเป็นทางการ เพื่อดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยว การทำตลาดร่วมกับบริษัททัวร์ เอเย่นต์ การจัดโปรโมชั่น และการทำ CRM ซึ่งจะมีการสร้างฐานข้อมูลของนักท่องเที่ยว (Tourist Big Data) เชื่อมโยงกับฐานสมาชิก The 1 Tourist ที่มีอยู่กว่า 700,000 คน ทำการ cross selling กับกลุ่มนักท่องเที่ยวทั่วโลกกับศูนย์การค้าและห้างสรรพสินค้าของกลุ่มเซ็นทรัลที่มีอยู่ทั่วโลกด้วย ในอนาคตแผนก Tourist Marketing จะเข้าไปดูแลกลุ่มนักท่องเที่ยวในศูนย์การค้าอื่นๆ ของ CPN ด้วย
ครบจบที่เดียวใน “เซ็นทรัล ภูเก็ต”
“เซ็นทรัล ภูเก็ต” เป็นสถานที่เดียวในโลกที่รวบรวมทุกจุดแข็งในการสร้างความแตกต่างจากศูนย์การค้าอื่นๆ ในเมืองชายทะเลทั่วโลก ซึ่งอาจจะมีจุดเด่นเพียงบางอย่าง แต่ “เซ็นทรัล ภูเก็ต” มีครบทุกแม่เหล็กดึงดูดไว้ในโครงการ ทั้งศูนย์การค้าลักชัวรี่เทียบเท่าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเอ็มบาสซี และห้างเซ็นทรัล ชิดลม ที่มีถึง 4 ชั้น, รวมถึงยังมีธุรกิจหลักในเครือกลุ่มเซ็นทรัล ไมว่าจะเป็น ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, พาวเวอร์บาย, บีทูเอส, ออฟฟิตเมท, แฟมิลี่ มาร์ท, เอส เอฟ เอ็กซ์ ซีเนม่า พร้อมด้วยแบรนด์สินค้าตั้งแต่ระดับลักชูรี่แบรนด์ บริดจ์ไลน์แบรนด์ ไลฟ์สไตล์แบรนด์ และร้านอาหาร รวมทั้งสิ้นกว่า 400 ร้านค้า โรงแรมมาตรฐานระดับโลก ศูนย์การประชุมนานาชาติ รองรับตลาด MICE และยังมีแอทแทรคชั่นหนึ่งเดียวในโลก อาทิ Tales of Thailand (เทลส์ ออฟ ไทยแลนด์) จำลองบรรยากาศวิถีชีวิต ความเป็นไทยในศูนย์การค้าที่ใหญ่ที่สุด, Tribhum (ไตรภูมิ) ประสบการณ์การผจญภัยเสมือนจริงแบบ 3D ในโลกแฟนตาซีวอล์คทรูแห่งแรกของโลก โดยจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในเดือนพฤศจิกายน 2561, และ Aquaria (อควาเรีย) อควาเรียมรูปแบบใหม่ครั้งแรกในประเทศไทย พร้อมให้สัมผัสกับความมหัศจรรย์ของมหาสมุทรและความลึกลับของแม่น้ำ และสัตว์กว่า 25,000 ตัว จะเปิดให้บริการไตรมาสแรก 2562 บนพื้นที่โครงการรวม 111 ไร่ ขนาดพื้นที่โครงการรวม 400,000 ตร.ม. อนาคตยังจะมีการพัฒนาพื้นที่รองรับกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับไฮเอนด์อื่นๆ ด้วย อาทิ ลานจอดเฮลิคอปเตอร์