วิกฤติ Covid-19 ส่งผลกระทบไปทุกอุตสาหกรรม “โรงภาพยนตร์” ก็สาหัสไม่ต่างกัน เพราะไม่เคยมีเหตุการณ์ไหนที่ทำให้โรงหนังต้องปิดพร้อมกันทั่วโลกเหมือนครั้งนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาด กว่า 2 เดือน ที่ธุรกิจต้องหยุดนิ่ง แม้ในวันที่กลับมาเปิดได้อีกครั้ง 2 ค่ายโรงหนัง SF-Major ยังต้องเจอโจทย์ยากกับโรงหนังยุค New Normal จัดที่นั่งเว้นระยะห่างทำให้ที่นั่งหายไป 75% ต่อรอบ เหลือ 25% ที่ขายได้ก็ยังต้องไปลุ้นให้เต็ม
ธุรกิจโรงภาพยนตร์
- Brand Move !!
- Brand Move !!
วิสัยทัศน์ 25 ปี Major ทำอย่างไรก็ไม่ถูกดิสรัป ถ้ายังสร้าง ‘ความสุข’ ได้ พร้อม 3 เสาหลัก ขับเคลื่อนธุรกิจโต 2 เท่า
by ppby ppเป็นอีกหนึ่งธุรกิจที่น่าจะอยู่ในกลุ่มสุ่มเสี่ยงจากการถูก Technology Disruption เพราะแวดล้อมด้วยปัจจัยเสี่ยงรอบด้าน แต่ทว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กลับทำรายได้เติบโตเพิ่มขึ้นได้ต่อเนื่องทุกปี พร้อมรักษาระดับกำไรไว้ไม่ต่ำกว่าหลักพันล้านบาทมาทุกปีเช่นกัน โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมาที่สามารถพาธุรกิจขยับสเกลไปสู่บริษัทที่ทำรายได้ระดับหมื่นล้านบาทได้สำเร็จ ขณะที่กำไรสุทธิก็ขยับขึ้นมาเกือบ 1,300 ล้านบาท
- Brand Move !!
รุ่น 2 มาแล้ว ‘วิศรุต พูลวรลักษณ์’ กับเป้าหมายที่จะทำให้ เมเจอร์ฯ เป็นมากกว่าแค่ที่ดูหนัง แต่ต้องเป็น Lifestyle Destination
by ppby ppถือโอกาสแนะนำตัวอย่างเป็นทางการพร้อมผลงานระดับมาสเตอร์พีซของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กับการลงทุนครั้งใหญ่ในรอบ 13 ปี เพื่อสร้าง Destination แห่งใหม่ในธุรกิจโรงภาพยนตร์ ที่เรียกได้ว่าเป็นโรงภาพยนตร์ที่สวยที่สุดตั้งแต่เมเจอร์ฯ เคยทำมา หรืออาจจะบอกว่าเป็นโรงภาพยนตร์ที่สวยที่สุดในโลกก็คงไม่ผิดนัก ซึ่งหนึ่งในหัวเรี่ยวหัวแรงของโครงการนี้ ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน แต่เป็นทายาทสายตรง ในเจนเนอเรชั่นที่ 2 “คุณวิศรุต พูลวรลักษณ์” ลูกชายคนโตวัย 25 ปี ของเจ้าพ่อธุรกิจโรงภาพยนตร์และเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ของไทยอย่าง “คุณวิชา พูลวรลักษณ์” นั่นเอง
- Brand Move !!
“ไอคอน ซีเนคอนิค” บิ๊กโปรเจ็กต์ในรอบ 13 ปี ระดับ World Best Cinema ท้าพิสูจน์ฝีมือทายาทรุ่น 2 Major
by ppby ppทุ่มเม็ดเงินสูงถึง 400 ล้านบาท เพื่อใช้ในการลงทุนปั้นโรงภาพยนตร์ระดับแฟล็กชิพมาสเตอร์พีซอย่าง “ไอคอน ซีเนคอนิค” (ICON CINECONIC) ซึ่งนับเป็นการลงทุนสูงที่สุดของเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ในรอบ 13 ปี และถือว่ามากขึ้นกว่าเท่าตัวหลังจากเปิดตัวโรงภาพยนตร์พารากอน ซีนีเพล็กซ์ ซึ่งถือเป็นการลงทุนโรงภาพยนตร์ระดับแฟล็กชิพที่ใช้เงินลงทุนสูงที่สุดของเมเจอร์ตลอดช่วงที่ผ่านมา ด้วยเม็ดเงินราว 200 ล้านบาท
- Brand Move !!
The New Power of Consumer เมเจอร์ฯ เปิดให้บริการ MOVIE ON DEMAND อยากให้คนเข้าโรงฯ ถี่ขึ้น ต้องให้สิทธิ์คนดู เป็น “คนเลือก”
by Rassarinby Rassarinถ้าหากว่า “ไนกี้” บอกว่าศัตรูของการออกกำลังกายคือ Netflix แต่สำหรับธุรกิจโรงภาพยนตร์แบบดั้งเดิมอย่าง เมเจอร์ฯ ศัตรูตัวฉกาจของเขา คุณนรุตม์ เจียรสนอง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) บอกว่า คือ “เวลา” ด้วยค่าเฉลี่ยที่พบว่า ปัจจุบัน คนเข้าโรงภาพยนตร์เฉลี่ยปีละ 0.78 เรื่อง เท่านั้น โจทย์ใหญ่ของ “เมเจอร์ฯ” จึงอยู่ที่การดึงดูดให้คนเข้าชมภาพยนตร์มากขึ้นให้ได้ โดยความพยายามในระยะหลังก็เช่น การเปิดตัวโรงภาพยนตร์เซกเมนต์ใหม่ “โรงภาพยนตร์สำหรับเด็ก” (อ่านเพิ่มเติมคลิกที่นี่)
- Brand Move !!
ประมวลภาพวันสุดท้ายของ “ลิโด้” พร้อมจับตาอนาคต CU Property จะนำไปพัฒนาอะไรต่อ
by Rassarinby Rassarinใจหาย…สำหรับคอภาพยนตร์อินดี้ หรือคนรุ่นวัย 50+ ที่ครั้งหนึ่งเคยมีความหลังกับ โรงภาพยนตร์ลิโด้ ที่หลายคนใช้เป็นสถานที่เดทจนก่อเกิดเป็นความรัก ซึ่งเชื่อว่านับตั้งแต่เปิดฉายภาพยนตร์เป็นเรื่อง Games For San Sebastian (ศึกเซบาสเตียน) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2511 ด้วยความจุ 1,000 ที่นั่ง กระทั่งเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ จึงเกิดการปรับปรุงให้เป็น โรงภาพยนตร์ขนาดเล็ก (มัลติเพล็กซ์) 3 โรงย่อย มีความจุรวม 633 ที่นั่ง
- Brand Move !!Featured
เมเจอร์ฯ เจาะคลัง Data วิเคราะห์เพิ่มฐานคนดูหนัง เปิดตัว ‘โรงหนังเด็ก’ ครั้งแรกในไทย
by ppby ppแม้จะเป็นผู้นำที่มีความแข็งแรงอย่างมากในธุรกิจโรงภาพยนตร์ของไทย แต่ความท้าทายสำคัญสำหรับเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ขณะนี้ หาใช่เรื่องของการแข่งขันเพื่อรักษาความเป็นผู้นำในตลาดหรือการก้าวไปแข่งขันในระดับภูมิภาคแต่อย่างใด เพราะโจทย์หลักตอนนี้อยู่ที่การหาวิธีทำให้คนไทยส่วนใหญ่หันมาดูภาพยนตร์ในโรงให้มากขึ้น จากตัวเลขการดูภาพยนตร์ของคนไทยโดยเฉลี่ยในขณะนี้ที่ต้องถือว่ายังต่ำอยู่มากด้วยตัวเลขไม่ถึง 1 เรื่องต่อคนต่อปีเท่านั้น