ผลประกอบการ

จีนยังเป็นดินแดนทำเงินของเทสล่า (Tesla) หลังผลประกอบการไตรมาส 3 ทุบสถิติอีกครั้งด้วยตัวเลขกำไร 1.62 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ แซงหน้าไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วไปกว่า 4 เท่า

เปิดรายได้ “Airbnb” ไตรมาส 2 ทะลุ 1.34 พันล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นเกือบ 300% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ด้านยอดจองที่พักเพิ่ม 29% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 แตะ 83.1 ล้านคืน พร้อมปรับระบบการจองวันเข้าพักยืดหยุ่นมากขึ้น รับพฤติกรรมนักเดินทางยุคโควิด พบที่พักแปลก ๆ ได้รับความสนใจเพิ่ม

อาลีบาบา กรุ๊ป(Alibaba) รายงานผลประกอบการ ประจำไตรมาสเดือนมิถุนายน 2564 ทำรายได้รวม 2 แสนล้านหยวน พร้อมประกาศเดินหน้าซื้อหุ้นคืนครั้งใหญ่สุดในประวัติศาสตร์ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

AIS ประกาศผลการดำเนินงานประจำไตรมาส 2 ของปี 2564 ทำรายได้รวม 42,757 ล้านบาท กำไรสุทธิ 7,041 ล้านบาท เผยตัวเลขผู้ใช้งาน 5G ทะลุ 1 ล้านราย ตั้งเป้า 2 ล้านรายภายในสิ้นปี

เป็นไปตามคาดสำหรับ Samsung Electronics กับการประกาศผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีสุดโหดอย่าง 2021 ที่สามารถทำรายได้ไปทั้งสิ้น 63.67 ล้านล้านวอน เพิ่มขึ้น 20% ส่วนกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 12.57 ล้านล้านวอน ซึ่งทางบริษัทระบุว่าเป็นผลประกอบการที่ดีที่สุดนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2018 เลยทีเดียว ขณะที่กำไรสุทธิอยู่ที่ 9.45 ล้านล้านวอน เหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เช่นกัน

ยอดขาย iPhone 5G พุ่งแรง ดันรายได้ Apple เพิ่มครั้งประวัติศาสตร์ในการประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 โดยทำรายได้ไปถึง 81,400 ล้านเหรียญสหรัฐ โตขึ้นจากเดิม 36.4%

ย้อนดูผลประกอบการ Johnson & Johnson, Moderna และ Pfizer สามบริษัทผู้ผลิตวัคซีน Covid-19 ยักษ์ใหญ่ของโลก แค่ไตรมาสแรกของปี ทั้งสามบริษัททำรายได้รวมกันแล้วกว่า 38,783 ล้านเหรียญสหรัฐ

ไม่เพียงแต่เป็นไตรมาสที่เทสล่า (Tesla) มีผลประกอบการทุบสถิติ โดยสามารถทำ “กำไร” ครั้งประวัติศาสตร์ได้มากถึง 1.14 พันล้านเหรียญสหรัฐ แต่ในไตรมาส 2 ของปี 2021 นี้ อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ยังได้เผยถึงกลยุทธ์ที่ทำให้ Tesla สามารถส่งมอบรถได้มากกว่า 2 แสนคัน ทั้ง ๆ ที่บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ต่างเผชิญกับวิกฤติขาดแคลนชิปครั้งใหญ่ด้วย

บริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค รายงานผลประกอบการไตรมาสที่ 2/64 จำนวนผู้ใช้บริการและรายได้จากการบริการเพิ่มขึ้นอีกไตรมาส ท่ามกลางความกังวลต่อการระบาดโควิด-19 ระลอกที่ 3

  AIS เผยผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2564 พบสัญญาณฟื้นตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ส่งผลให้รายได้รวมเติบโต 7% (YoY) อยู่ที่ 45,861 ล้านบาท

เปิดรายได้ “เซ็นทรัล รีเทล” (CRC) ไตรมาส 4 ปี 2563 ทำไปได้ 51,077 ล้านบาท ลดลง 18.9% กำไรสุทธิ 1,102 ล้านบาท ลดลง 83.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2562 ขณะที่รายได้รวมของปี 2563 ซึ่งเป็นปีที่ธุรกิจได้รับผลกระทบจาก Covid-19 อย่างหนักนั้น เซ็นทรัลรีเทลทำไปได้ทั้งสิ้น 194,311 ล้านบาท ลดลง 12.8% …

ปฏิเสธไม่ได้ว่า การถาโถมของพายุโควิด-19 ลูกนี้ สร้างผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรม ทุกธุรกิจกันถ้วนหน้า ไม่ว่าจะธุรกิจขนาดเล็ก กลาง จนถึงขนาดใหญ่ ทำให้หลายธุรกิจต้องเผชิญกับการเติบโตลดลง ไม่เว้นแม้แต่หนึ่งในธุรกิจสื่อโฆษณากลางแจ้งยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ก็ไม่รอดจากพิษร้ายของโควิด-19 นี้เช่นกัน ฉุดรายได้ไตรมาส 3 ปี 2563/64 ลดลง 38.4% ส่งผลให้ต้องเร่งปรับตัวมองหาธุรกิจใหม่เข้ามาเสริมทัพ

จากเหตุการณ์การแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ไปทั่วโลกที่ส่งผลให้ธุรกิจการบินต้องหยุดชะงักและไม่มีแนวโน้มว่าจะฟื้นตัวกลับมาได้ในเร็ววัน ปฏิเสธไม่ได้ว่าเราเห็นข่าวการล้มละลาย และยื่นขอฟื้นฟูกิจการของสายการบินต่าง ๆ ปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง หลายแห่งต้องปิดตัวถาวร หลายแห่งต้องประกาศเลย์ออฟพนักงาน หลายแห่งต้องมองหาธุรกิจใหม่เพื่อเพิ่มรายได้ ไม่ว่าจะเป็นการขายอาหาร การอบรมพนักงานต้อนรับให้ไปช่วยงานพยาบาล หรือแม้แต่ประกาศรุกตลาดซูเปอร์แอปโดยมีฐานข้อมูลลูกค้านับล้านเป็นเดิมพัน

เอไอเอส เปิดผลประกอบการ 2563 รายได้รวม 172,890 ล้านบาท กำไรสุทธิ 28,423 ล้านบาท เตรียมลงทุนเพิ่ม 25,000 – 30,000 ล้านบาทขยายเครือข่าย 5G/4G พร้อมจ่ายเงินปันผล 3.68 บาทต่อหุ้นเมษานี้

ศึกในโลกสมาร์ทโฟนกำลังจะผ่านไป และศึกในโลกใหม่ หรือที่ Mark Zuckerberg ซีอีโอ Facebook เรียกว่า The Next Computing Platform กำลังจะเกิดขึ้น โดยอาจมีชื่อของ Apple เป็นคู่แข่งของ Facebook อย่างเป็นทางการ

แอปเปิล (Apple) โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2021 ทำรายได้เพิ่มขึ้น 21% แตะ 111,400 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 103,100 ล้านเหรียญสหรัฐไปมากพอดู โดยหัวใจหลักคือ iPhone ที่ไตรมาสนี้ทำรายได้ไปถึง 65,600 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท)

ไมโครซอฟท์ (Microsoft) โชว์ผลประกอบการไตรมาส 2 ของงบการเงินปี 2021 พบยอดขายเติบโตเหนือนักวิเคราะห์คาดการณ์ โดยเพิ่มขึ้นถึง 17% เหตุเพราะลูกค้าองค์กรเพิ่มการใช้คลาวด์ และซอฟต์แวร์ของทางค่ายเพื่อรองรับการ Work From Home ส่งผลให้รายได้รวมแตะ 43,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 1,291,900 ล้านบาท และทำกำไรสุทธิจากไตรมาสนี้ไปถึง 15,500 ล้านเหรียญสหรัฐ

ถึงเวลายืนได้ด้วยลำแข้งตัวเอง เน็ตฟลิกซ์ (Netflix) ประกาศตัวเลขผู้ใช้งานทะลุ 203.6 ล้านคน โดยมีผู้ใช้งานแบบ Paid Subscribers เพิ่มขึ้น 8.5 ล้านคนในไตรมาส 4 ที่ผ่านมา และก็เป็นไตรมาสที่สร้างรายได้ให้กับบริษัทถึง 6,644 ล้านเหรียญสหรัฐ (กำไรอีก 542 ล้านเหรียญสหรัฐ) ซึ่งความแข็งแกร่งทั้งหมดที่กล่าวมานี้ยังทำให้มูลค่าหุ้น Netflix พุ่งทะยานไปอีก 8% จนบริษัทออกมาบอกว่า ตอนนี้ไม่ต้องการแหล่งเงินทุนจากภายนอกมาสนับสนุนแล้วจ้ะ

การทำธุรกิจ ด้วยการพึ่งพิงกลุ่มสินค้าใดกลุ่มสินค้าหนึ่ง และกลุ่มตลาดใดตลาดหนึ่ง เพื่อเป็นรายได้หลักให้กับบริษัท องค์กรนั้นย่อมมีความเสี่ยง เพราะหากเกิดปัจจัยที่สร้างกระทบโดยตรง ย่อมมีผลต่อธุรกิจ ยิ่งในสถานการณ์ COVID-19 ที่สร้างผลกระทบแทบจะทุกอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับการท่องเทียว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจโรงแรมที่พัก และสินค้าที่มีฐานลูกค้าใหญ่ในกลุ่มนักท่องเที่ยว รวมทั้งภาคการบริโภค ที่กำลังซื้อลดลง และหนี้ครัวเรือนเพิ่มสูงขึ้น ทั้งยังกลายเป็นข้อจำกัดในการแสวงหาโอกาสการเติบโตใหม่ขององค์กรนั้นๆ ด้วย โดยเฉพาะในเวลาที่จะเกิดเทรนด์ใหม่ หรือเทรนด์ใหม่เกิดขึ้นแล้ว และสามารถเชื่อมโยงกับ Core Business ได้ เท่ากับพลาดโอกาสไปอย่างน่าเสียดาย! เมื่อเป็นเช่นนี้ คำว่า “Diversify” จึงมีความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจ เพื่อกระจายความเสี่ยง …

พฤกษาโชว์ผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2563 ทำยอดขาย 6,584 ล้านบาท ดีดตัวขึ้นจากไตรมาสก่อน 88% รายได้ 6,353 ล้านบาท และกำไร 603 ล้านบาท ฟื้นตัวเร็วแม้เจอภาวะโควิด โค้งสุดท้ายจ่อโอนเดอะรีเซิร์ฟ เล็งโกยรายได้ตามเป้า เตรียมเผยโฉมโรงพยาบาลกลางปีหน้า

เอไอเอสรายงานผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี 2563 มีรายได้รวมอยู่ที่ 41,715 ล้านบาท ลดลง 1.3% จากไตรมาสก่อนหน้า และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 6,764 ล้านบาท พร้อมคงงบ 3.5 หมื่นล้านบาทลงทุนเครือข่าย 5G ต่อเนื่องในปี 2563 นี้

นินเทนโด (Nintendo) เปิดผลประกอบการเดือนเมษายน – กันยายน พบเป็น 6 เดือนที่บริษัททำกำไรจากการดำเนินงานได้สูงที่สุดในประวัติศาสตร์แตะ 291,000 ล้านเยน หรือประมาณ 86,240 ล้านบาท

เทสล่า (Tesla) ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ของปี ทำรายได้ 8,770 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นกำไรสุทธิ 331 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยถือเป็นไตรมาสที่ 5 แล้วที่บริษัทสามารถทำกำไรได้ติดต่อกัน

เชื่อว่าหลายคนน่าจะกำลังมองหาความเปลี่ยนแปลงของ Fitbit หลังจากมีการประกาศว่าจะควบกิจการกับ Google   ซึ่งบางทีคำตอบนั้นอาจอยู่ในการเปิดตัวสมาร์ทวอทช์รุ่นล่าสุดอย่าง Fitbit Sense เมื่อปลายเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาก็เป็นได้

ฉลองครบรอบ 10 ปีด้วยผลประกอบการครึ่งปีแรกที่ไม่ธรรมดาเลยทีเดียวสำหรับ Xiaomi โดยใน 6 เดือนที่โลกเผชิญความผันผวนทางเศรษฐกิจนั้น Xiaomi สามารถทำรายได้ทะลุแสนล้านหยวน ส่วนกำไรโตเพิ่ม 22.3% ขึ้นแท่นสมาร์ทโฟนเบอร์ 4 โลกเรียบร้อย

เอไอเอส รายงานผลประกอบการไตรมาส 2 ของปีพบกำไรสุทธิ (ไม่รวมผลของมาตรฐานบัญชีไทย 16) อยู่ที่ 7,235 ล้านบาท ลดลง 6.7% เมื่อเทียบกับปีก่อน แต่เติบโตขึ้น 3.3% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า โดยมีรายได้รวมลดลง 4.1% อยู่ที่ 42,256 ล้านบาท จากสถานการณ์ COVID-19 ซึ่งกระทบต่อการใช้จ่ายผู้บริโภคในด้านการใช้มือถือ แต่ในขณะเดียวกันก็พบว่า ธุรกิจเน็ตบ้าน เอไอเอส ไฟเบอร์ มีลูกค้าเพิ่มขึ้นสูงสุดถึง 112,200 ราย …

ประกาศผลประกอบการไปแล้วอีกหนึ่งรายสำหรับ Apple ยักษ์ใหญ่ที่หลายคนรอคอย โดยจุดที่น่าสังเกตคือ แม้การเติบโตของรายได้ในไตรมาสนี้จะเพิ่มไม่มากนัก (เพียง 1%) แต่ก็ทำให้เห็นว่ามีบางหมวดที่เติบโตอย่างน่าสนใจ นั่นคือกลุ่ม Wearable, Home and Accessories ที่ทำรายได้ไปถึง 6,284 ล้านเหรียญสหรัฐ (ไตรมาส 2 ของปี 2019 ทำรายได้ 5,129 ล้านเหรียญสหรัฐ) และกลุ่ม Services ที่ทำรายได้ 13,348 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้นจากเดิมที่เคยทำได้ 11,450 …

หลังจาก Google ประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 ที่พบว่ารายได้จากธุรกิจโฆษณายังคงเติบโตแม้จะมีการชะลอตัวในเดือนมีนาคมไปบ้างนั้น อีกหนึ่งบริษัทที่วงการโฆษณาจับตาอย่าง Facebook ก็ออกมาประกาศผลประกอบการไตรมาส 1 แล้วเช่นกัน ซึ่งแน่นอนว่า Facebook ก็ไม่ทำให้หลายคนผิดหวัง

เรียกว่าเป็นการประกาศผลประกอบการที่หลายคนจับตากันทีเดียวสำหรับ “Google” เจ้าพ่อวงการโฆษณาดิจิทัล ซึ่งล่าสุด Alphabet บริษัทแม่ของ Google ได้มีการรายงานผลประกอบการไตรมาส 1 ของปีนี้ออกมาแล้ว และพบว่ารายได้รวมของบริษัทยังคง “โตขึ้น” เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

ธุรกิจ Wearables, Home และ Accessories ของ Apple อย่าง Apple Watch, AirPods และ HomePod กลายเป็นธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว จนมีทีท่าว่าจะแซงคอมพิวเตอร์ Mac ให้หล่นมาเป็นอันดับสามกันได้แล้วในงบการเงินปีที่ผ่านมา