อาคเนย์ประกันภัย

หลัง 2 บริษัทประกัน “อาคเนย์ประกันภัยและไทยประกันภัย” ปิดกิจการ ไปเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2565  ซึ่งส่งผลกระทบกับผู้ถือกรมธรรม์โควิด เจอ จ่าย จบ จำนวนกว่า 1 ล้านกรมธรรม์ ทั้งกลุ่มที่ต้องการยื่นเคลมประกัน และกลุ่มที่ต้องการรับเบี้ยประกันคืน

ถือเป็นเหตุการณ์สะเทือนวงการประกันภัยไทย กับการปิดกิจการ 2 บริษัทยักษ์ใหญ่ “อาคเนย์ประกันภัย” อายุ 76 ปี และ “ไทยประกันภัย” บริษัทประกันภัยแห่งแรกของคนไทยอายุ 84 ปี หลังเผชิญมรสุมโควิด เจอ จ่าย จบ อย่างสาหัส จนต้องยื่นขอคืนใบอนุญาต สุดท้ายจบลงด้วยการถูกเพิกถอนใบอนุญาตประกอบธุรกิจ ต้องปิดตัวลงในวันที่ 1 เมษายน 2565 เป็นอีกบทเรียนสำคัญของธุรกิจประกันภัย

ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการ คณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กล่าวว่า วันนี้ (1 เมษายน) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ออกคำสั่ง “เพิกถอนใบอนุญาต” ประกอบกิจการประกันภัยของ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) แล้ว มีผลตั้งแต่ 1 เมษายน 2565

  สรุปผลประกอบการปี 2564 กลุ่มบริษัทเครือไทยโฮลดิ้งส์ (TGH) ธุรกิจการเงิน ประกันชีวิต และประกันภัย ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี มีผลขาดทุนสุทธิ 3,360 ล้านบาท จากยอดเคลมประกันโควิด “เจอจ่ายจบ” จนต้องเลิกกิจการ 2 บริษัท “อาคเนย์ประกันภัยและไทยประกันภัย”

หลังจากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นขอ “เลิกกิจการ” ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 และอยู่ระหว่างการพิจารณาของ คปภ. ที่กำหนดเงื่อนไขให้ดูแลกรมธรรม์ทุกประเภทก่อนเลิกกิจการ

หลังจากบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นขอเลิกกิจการและคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เมื่อวันที่ 28 มกราคม 2565 ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ คปภ.ได้รับคำขอไว้พิจารณาแล้ว หากได้รับอนุญาตให้เลิกกิจการ จะส่งผลให้บริษัทปิดการดำเนินงานทันที

หลังจาก บริษัทอาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ธุรกิจประกันภัยในกลุ่มทีซีซี ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ได้ยื่นเรื่องขอ “เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย” และส่งคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยต่อนายทะเบียนตามกฎหมาย เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดเคลมประกันโควิด “เจอ จ่าย จบ” กว่า 9,900 ล้านบาท

หลังจากบริษัทเครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH  ธุรกิจด้านประกันและการเงินของกลุ่มทีซีซี ของ “เจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี” ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565 เรื่องมติที่ประชุมคณะกรรมการให้ “เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย” ของบริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) ธุรกิจในเครือไทย โฮลดิ้งส์  เนื่องจากได้รับผลกระทบจากยอดเคลมประกันโควิด “เจอจ่ายจบ” กว่า 9,900 ล้านบาท

หลังจาก บริษัทเครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) แจ้งมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท “เลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัย” ของ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2565

  บริษัทเครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TGH  ธุรกิจหลักด้านประกันและการเงินของกลุ่มทีซีซี ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย วันนี้ (26 ม.ค.2565) เรื่องมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทเกี่ยวกับการเลิกประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยของ บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน)

ประกันโควิด “เจอจ่ายจบ” ยังวุ่นต่อ! หลังจาก บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท ไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) ฟ้องคดี ดร.สุทธิพล ทวีชัยการ เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ที่ศาลปกครองกลาง กรณีพิพิาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย โดยศาลรับคำฟ้องเมื่อวันที่ 10 มกราคม 2565

อาคเนย์ประกันภัย จ่ายสินไหมทดแทนให้พ่อแม่ของน้องหญิง ผู้เสียชีวิตจากกรณีรถเบนซ์ชนจักรยานยนต์ที่จังหวัดบุรีรัมย์แล้ว 2.5 ล้านบาท

อาคเนย์ประกันภัย หนึ่งในสายธุรกิจหลักด้านประกันและการเงิน บริษัท เครือไทย โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) ร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงสนับสนุนนโยบาย “ฉีดช่วยชาติ หมอพร้อมฉีด ประกันวินาศภัยพร้อมดูแล” อาคเนย์พร้อมแจกฟรีประกันแพ้วัคซีนสู้โควิด 1 ล้านสิทธิ์ แบบง่าย ๆ แค่ปลายนิ้ว แอดผ่านไลน์อาคเนย์ Line @Southeast.th ตั้งแต่วันที่ 28 พฤษภาคม – 30 มิถุนายน 2564

นับตั้งแต่ตัดสินใจมาเป็น “แม่ทัพ” อาณาจักร “เครือไทย โฮลดิ้งส์” ชื่อของ “คุณฐากร ปิยะพันธ์” ก็สร้างความสนใจให้กับคนในธุรกิจประกันและการเงินมากมาย วันนี้ ฐากร เปิดใจถึงกลยุทธ์ และแผนการทำงาน หลังเข้ามานั่งเป็นแม่ทัพเกือบ 4 เดือน พร้อมกับเป้าหมายชัดเจนในการนำธุรกิจประกันและการเงินของเจ้าสัวสู่ผู้นำตลาดภายใน 5 ปี รวมถึงขยายธุรกิจไปไกลในอาเซียน

เทรนด์ที่มาแรงในโลกการตลาดปัจจุบัน คือการตลาดตามความต้องการของลูกค้าเฉพาะบุคคล (Personalize) เพราะแต่คนละย่อมมีความต้องการที่ต่างกัน การพัฒนาผลิตภัณฑ์หนึ่งอย่างให้ตอบโจทย์ทุกคน หรือ One Size Fits All จึงถือว่าหมดยุคไปแล้ว