อินเดีย

ถ้าภาพด้านบนคือสิ่งที่ผู้ป่วยโรคตาบอดสีมองเห็นเวลาต้องการสั่งเบอร์เกอร์ ก็คงทำให้อาหารมื้อนั้นเป็นอีกหนึ่งมื้อที่ไม่สนุกนัก ด้วยเหตุนี้ McDonald’s อินเดียจึงบอกว่า อยากทำให้เมนูของพวกเขา “มีสีสันและเข้าถึงใจ” ของผู้ที่เป็นโรคตาบอดสี (Color Blindness) หรือภาวะพร่องการมองเห็นสีมากขึ้น

Goldman Sachs คาดการณ์ “จีน” จ่อขึ้นแท่นผู้นำเศรษฐกิจโลกในอีก 12 ปีข้างหน้า (ภายในปี 2035) ส่วนอินเดียเตรียมก้าวแซงสหรัฐอเมริกาในปี 2075 (หรือเท่ากับ 52 ปีข้างหน้า) เช่นกัน และการเติบโตของทั้งสองประเทศจะผลักให้พญาอินทรีหล่นมาอยู่อันดับ 3 และอาจทำให้ภาพรวมของเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนไปอย่างไม่มีวันหวนกลับ

รายงาน Mobility Report ของ Ericsson ประจำเดือนมิถุนายน 2566 พบการเติบโตด้านการใช้ข้อมูลบนสมาร์ทโฟนในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และโอเชียเนียอย่างมีนัยสำคัญ โดยคาดว่าจะทะลุ 20GB ในสิ้นปีนี้ ขณะที่ตัวเลขผู้ใช้ 5G ทั่วโลกแตะ 1.5 พันล้านราย

นอกจากเป็นประเทศที่เต็มไปด้วยเครื่องเทศนานาชนิดแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ “อินเดีย” มีการใช้ในชีวิตประจำวันมากไม่แพ้กันก็คือ “ดอกไม้” โดยมีรายงานว่า เฉพาะในเมืองไฮเดอราบัด มีดอกไม้ที่กลายเป็นขยะถูกทิ้งอยู่ตามศาสนสถาน วัด และมัสยิดให้ต้องรับผิดชอบจัดเก็บมากกว่าวันละ 1,000 ตัน

คู่แข่งของนักพัฒนาเกมอาจมาได้จากทุกสาขาอาชีพ และตอนนี้ก็มาจากนักกีฬาคริกเก็ตสัญชาติอินเดียแล้วอีกหนึ่งราย เมื่อ Deepak Chahar นักกีฬาคริกเก็ตชื่อดังตัดสินใจเปิดตัวแพลตฟอร์มเกมของเขากับ Jaya Chahar ภรรยาในชื่อ TFG (Trade Fantasy Game) พร้อมตั้งบริษัท JCDC Sports ขึ้นมาเพื่อดูแลธุรกิจดังกล่าว

การบริหารชีวิตกับงานให้สมดุลอาจเป็นเรื่องยากสำหรับธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง แต่อาจไม่ใช่กับบริษัทไอทีจากอินเดียแห่งนี้ เพราะพวกเขาได้พัฒนาระบบแจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาเลิกงาน โดยระบบดังกล่าวจะปรากฏข้อความที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ เพื่อบอกพนักงานว่าระบบต่าง ๆ ของออฟฟิศจะปิดตัวใน 10 นาทีข้างหน้านี้แล้ว ดังนั้น “จงปิดคอมพ์และกลับบ้านเดี๋ยวนี้”

ลายมือคุณหมอในการเขียนใบสั่งยาอาจเป็นหนึ่งในความท้าทายของโลก และ Google ก็บอกว่า พวกเขากำลังพัฒนา AI เพื่อมาท้าทายกับสิ่งนี้แล้ว โดยมีการเปิดเผยถึงการพัฒนาโมเดล AI ดังกล่าวในงานคอนเฟอเรนซ์ของ Google ที่จัดขึ้นในอินเดียเมื่อต้นสัปดาห์

มีรายงานว่า แอปเปิล (Apple) ยักษ์ใหญ่แห่งวงการเทคโนโลยีอาจเตรียมขยับเขยื้อนเคลื่อนย้ายฐานที่มั่นด้านการผลิต iPhone ออกจากจีนแผ่นดินใหญ่ เปลี่ยนไปปักหมุดที่อินเดีย รวมถึงมีความเป็นไปได้ว่า แอปเปิลอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลอินเดียถึงโอกาสในการย้ายการผลิต iPad ไปด้วย

ธนาคารกลางญี่ปุ่น (The Bank of Japan หรือ BOJ) เตรียมทดสอบการให้บริการเงินเยนดิจิทัลภายใต้ความร่วมมือกับ 3 ธนาคารยักษ์ใหญ่ของประเทศ โดยคาดว่าจะได้เห็นอย่างเป็นรูปธรรมในช่วงฤดูใบไม้ผลิปีหน้า

หลายคนอาจยังจำได้กับสถานการณ์มลพิษทางอากาศในจีนแผ่นดินใหญ่เมื่อปี 2016 กับการมีหมอกควันปกคลุมเมืองต่าง ๆ มากถึง 293 เมืองจนยากจะมองเห็นทางข้างหน้า ก่อนที่ทางการจีนจะใช้เวลาสักระยะจนสามารถจัดการกับปัญหาดังกล่าวได้ในที่สุด ซึ่งอีกหนึ่งประเทศที่เผชิญปัญหามลพิษบนท้องถนนก็คือ “อินเดีย” และปัญหาของอินเดียก็กำลังได้รับการจัดการเช่นกัน โดยตอนนี้มีสตาร์ทอัพรายหนึ่งชื่อ Shellios ตัดสินใจผลิต “หมวกกันน็อค” ที่สามารถฟอกอากาศได้ในตัวออกมาให้ชาวภารตะได้ซื้อหากันแล้ว

สำนักข่าว The Economic Times India เผยแพร่ข่าว Metro AG ยักษ์ใหญ่ด้านค้าปลีก-ค้าส่ง ของเยอรมนี มีแผนจะขายกิจการ ห้างค้าส่ง Metro ในอินเดีย โดยมีข่าวลือว่า CP Group เป็นหนึ่งในเครือที่สนใจเข้าซื้อกิจการที่คาดว่าจะมีมูลค่าราว 1.5-1.75 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 52,000 – 61,000 ล้านบาท

ฮอนด้า มอเตอร์ (Honda Motor) เตรียมเปิดตัวบริการเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอินเดีย เจาะกลุ่มตุ๊กตุ๊กไฟฟ้า หวังช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

ทำงาน 4 วันต่อสัปดาห์อาจไม่ว้าวอีกต่อไปแล้ว เพราะ “Slice” ฟินเทคสตาร์ทอัพในอินเดียกำลังเปิดรับสมัครงานด้วยแนวคิดที่ว้าวกว่า นั่นคือทำงานแค่ 3 วันต่อสัปดาห์ และจ่ายเงินเดือนให้ 80% ของค่าเฉลี่ยในตลาด โดยมองว่า แนวคิดดังกล่าวออกจะ Win-Win ทั้งพนักงานและนายจ้าง โดยพนักงานก็จะได้มีอิสระในการใช้ชีวิตมากขึ้น หลังจาก Work From Home กันมานานนับปี ส่วนนายจ้างก็จะได้มีคนเก่ง ๆ เข้ามาทำงานตามเป้าที่วางไว้

  สำหรับแฟน ๆ Disney+ ที่กำลังเฝ้ารอการเปิดตัวในประเทศไทย  และเป็นที่แน่ชัดแล้วว่า “สิ้นเดือนมิถุนายนนี้” สาวกดิสนี่ย์จะได้ดูกันแล้ว (อ่านเพิ่มเติม สิ้นสุดการรอคอย Disney+ Hotstar เตรียมให้บริการในไทย 30 มิถุนายน 2564 ) นอกเหนือจากวันที่เปิดตัวแล้ว ยังมีอีกหนึ่งความคืบหน้าเรื่องของพันธมิตรในประเทศไทยมาอัพเดทเพิ่มเติม เมื่อสื่ออย่าง Variety ระบุว่า การเปิดตัว Disney+ Hotstar นั้นเป็นการพาร์ทเนอร์ร่วมกับผู้ให้บริการโทรคมนาคมและอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่ของไทยอย่าง “เอไอเอส” (AIS) นั่นเอง

เป็นที่ทราบกันดีว่าหัวเรือใหญ่ของยูนิลีเวอร์อย่าง Dove เป็นผู้สนับสนุนให้ผู้หญิงงามตามธรรมชาติมาตลอดในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และภาพยนตร์เรื่องล่าสุดของ Dove อย่าง #StopTheBeautyTest ที่เปิดตัวในอินเดียเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ได้นำเสนอประเด็นสำคัญเกี่ยวกับแนวทางปฏิบัติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเรื่องหนึ่งในอินเดียนั่นคือกระบวนการจับคู่แต่งงาน การถูกตัดสิน และถูกปฏิเสธที่ผู้หญิงต้องเผชิญในกระบวนการนี้

รัฐมนตรีอินเดียเผย เทสล่า (Tesla) ค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่เตรียมบุกตลาดต้นปีหน้า โดยจะเริ่มจากการขายรถยนต์ก่อน จากนั้นหากได้รับผลตอบรับดี ก็อาจลงทุนต่อในเรื่องโรงงานการผลิตและชิ้นส่วนยานยนต์เพิ่มต่อไป

เมื่อหลายปีก่อน เชื่อว่าหลายคนยังจำได้กับข่าวการกดดันพนักงานให้ทำงานหนักเกินพอดีของโรงงาน Foxconn ในจีนแผ่นดินใหญ่เพื่อเร่งผลิตไอโฟน ร้อนถึงบริษัทแอปเปิล (Apple) ต้องออกมาจัดการจนเรื่องราวคลี่คลายไปในทางที่ดี

จับกระแส TikTok โดนแบน ตอนนี้ไม่ว่าใครก็ต่างเปิดตัวฟีเจอร์คลิปวิดีโอสั้นกันเป็นแถว แม้แต่แพลตฟอร์มที่รองรับคลิปวิดีโอยาว ๆ อย่าง YouTube ก็ยังลงมาแข่งด้วย โดยได้มีการเปิดตัว YouTube Shorts ซึ่งเป็นประสบการณ์การใช้งานวิดีโอแบบสั้นคล้ายกับ TikTok ขึ้นมาเช่นกัน

กลุ่มดุสิตธานี ประกาศแผนการขยายธุรกิจในประเทศอินเดีย เน้นตลาดท่องเที่ยวระดับบนด้วยโมเดลรับจ้างบริหารและแฟรนไชส์ ในเมืองหลักและเมืองรอง เช่น มุมไบ, เดลี, และบังกาลอร์  คาดสามารถปิดดีลอีก 4 แห่งใน 12 เดือนข้างหน้า โดยวางแผนเปิดโรงแรมปีละ 2 แห่งเริ่มตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป เผยล่าสุดลงนามในสัญญาแฟรนไชส์กับเจนกรุ๊ป (Jain Group) กลุ่มบริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจท่องเที่ยว และธุรกิจการเงินชั้นนำในอินเดีย เพื่อเตรียมเข้าบริหารโรงแรม ดุสิต ปริ๊นเซส เซอร์วิส สวีท กัลกัตตา คาดเปิดให้บริการได้ในช่วงไตรมาส 2 …

ดูท่าว่าจะไม่จบง่ายๆ สำหรับการปะทุขึ้นอีกระหว่าง “จีน” กับ “อินเดีย” หลังจากก่อนหน้านั้น “รัฐบาลอินเดีย” ได้สั่งแบนแอปพลิเคชันของประเทศจีนรวมแล้ว 59 แอปฯ เช่น แอปฯ TikTok ของ ByteDance ซึ่งประเทศอินเดีย ถือเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ของ TikTok โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 120 ล้านคน และ WeChat ของกลุ่ม Tencent บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน และระดับโลก  ทางการอินเดียให้เหตุผลถึงการสั่งแบนแอปพลิเคชันของจีนว่า เป็นภัยต่ออธิปไตย ความมั่นคง …

ความตึงเครียดทางพรมแดนจีน-อินเดีย บริเวณเทือกเขาหิมาลัยปะทุหนักขึ้นในช่วงต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา จนมีการปะทะกันและมีทหารเสียชีวิตจากกรณีดังกล่าว 20 นาย เป็นเหตุให้ความสัมพันธ์ทางการค้าและด้านอื่นๆ ของสองประเทศนี้ตกต่ำลงด้วย และล่าสุดลุกลามมาถึงเรื่องของการใช้งาน “แอปพลิเคชั่น” 

นักพัฒนาแอปพลิเคชันในอินเดียจัดหนัก ส่งแอปพลิเคชันสุดกวน “Remove China Apps” เข้า Google Play Store ไว้คอยตรวจสอบให้ว่า แอปตัวไหนในเครื่องของเราที่พัฒนาโดยทีมงานจากจีน จะได้ลบถูกตัว

เรียกได้ว่าเป็นกลยุทธ์ที่มองทะลุไปถึงใจกลางของตลาดอินเดีย เมื่อ Facebook ยักษ์ใหญ่จากซิลิคอนวัลเลย์ออกมาประกาศซื้อหุ้น 9.99% ของ Reliance Jio ผู้ให้บริการโทรคมนาคมของอินเดียที่มีผู้ใช้บริการอันดับ 1 ของอินเดีย โดยมีฐานลูกค้ามากถึง 388 ล้านคน

สำหรับธุรกิจท่องเที่ยวออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการจองโรงแรม ที่พัก และเที่ยวบิน ข้อมูลจากรายงาน e-Conomy SEA 2019 ระบุว่าเป็นธุรกิจที่ทำรายได้จากเศรษฐกิจดิจิทัลมากเป็นอันดับแรกของประเทศไทย โดยมีมูลค่าตลาด (Gross Bookings Value) ในปี 2019 อยู่ที่ 7,200 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2.18 แสนล้านบาท และมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปีอยู่ที่ 17%

มีอินไซต์ข้อหนึ่งที่น่าสนใจ กับการสำรวจพบว่า อินเดียเป็นประเทศที่ประชากร “นอนหลับ” ในตอนกลางคืนได้ยาวนานที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยผู้ใหญ่ชาวอินเดียมีโอกาสนอนหลับมากกว่า 8 ชั่วโมง ขณะที่ค่าเฉลี่ยของทั่วโลกอยู่ที่ 6.8 ชั่วโมงในวันทำงาน และ 7.8 ชั่วโมงในวันหยุดสุดสัปดาห์เท่านั้น

ทุกวันนี้เรามักเห็นบริการทางการเงินจากบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนปรากฏออกมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นค่าย Apple หรือ Samsung ที่มีบริการชำระเงินของตนเอง ซึ่งในมุมของบริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก Xiaomi แม้ว่าจะมีบริการ Mi Pay แต่การออกมาแข่งในตลาดโลกกับเจ้าใหญ่ ๆ เหล่านั้นอาจไม่ใช่เรื่องง่าย ส่วนจะแข่งในตลาดจีน ประเทศแม่ของตัวเองก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน เนื่องจากมีบริการยักษ์ใหญ่อย่าง Alipay และ WeChatpay ครองตลาดไปแล้วเรียบร้อย

“ทักษะการเขียนโปรแกรม” คำนี้อาจเป็นยาขมสำหรับผู้ใหญ่หลายคน พร้อมภาพในหัวที่มองว่ามันเป็นเรื่องยาก แถมหน้าจอก็มีแต่ภาษาประหลาด ๆ ที่อ่านไม่เข้าใจ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่สำหรับเด็กอินเดียอีกต่อไป เพราะปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนไม่น้อยที่หันมาจับกลุ่มพ่อแม่รุ่นใหม่ที่อยากส่งเสริมลูกให้เรียนเขียนโปรแกรมกันตั้งแต่เล็ก ๆ มากขึ้น

  เมื่อเร็ว ๆ นี้เราคงได้ยินข่าวของอินเดียที่มีแคมเปญตั้งชื่อถนน หรือสาธารณูปโภคต่าง ๆ ด้วยชื่อของคนที่เสียภาษี ซึ่งอาจฟังดูแปลกสำหรับประเทศไทยที่คนชนชั้นกลางเสียภาษีกันจนเป็นเรื่องปกติอยู่พอสมควร แต่สำหรับประเทศอินเดียที่มีประชากร 1.2 พันล้านคนนั้น จริง ๆ แล้วมีไม่ถึง 3% ของประชากรที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ต้องเสียภาษี โดยสิ่งที่รัฐบาลบันทึกได้ก็คือ คนส่วนใหญ่ในอินเดีย ราว 70% มีรายได้ไม่ถึง 2 เหรียญสหรัฐต่อวัน และในจำนวนนี้ มีถึง 400 ล้านคนที่ย้ายถิ่นฐานไปเรื่อย ๆ ซึ่งยากแก่การให้ความช่วยเหลือเพื่อให้พ้นจากความยากจน

เรียกได้ว่าเป็นบริษัทที่หลายคนรอคอยไปเสียแล้วว่าสินค้าใหม่ตัวต่อไปจะเป็นอะไรสำหรับ Xiaomi เพราะแค่การเปิดตัวสินค้าล่าสุดอย่างรถยนต์ SUV และเครื่องปั๊มลมรูปทรงคล้าย iPod ก็เรียกเสียงฮือฮาได้มากมาย ไม่นับรวมอุปกรณ์ IoT เช่น สายรัดข้อมือ, เครื่องชั่งน้ำหนัก, สกู๊ตเตอร์, ทีวีอัจฉริยะ, เครื่องดูดฝุ่น, ปลั๊กไฟ, หลอดไฟ, กาต้มน้ำ ฯลฯ ที่บริษัททยอยเปิดตัวออกมาก่อนหน้า

ในวันที่ธุรกิจกำลังมองหาความพรีเมียมเพื่อเพิ่มโอกาสในการขาย เรามีอีกหนึ่งตัวอย่างของการเปลี่ยนรูปแบบการผลิต และใช้เทคโนโลยีมาช่วยเพื่อยกระดับสินค้าจากสินค้าธรรมดาๆ ให้กลายเป็นสินค้าระดับพรีเมียม โดยความเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นในอินเดีย ประเทศที่ธุรกิจ “นม” มีมูลค่าตลาดถึง 120,000 ล้านเหรียญสหรัฐ