แอลกอฮอล์

ในช่วงเทศกาลเข้าพรรษาของทุกปี ปฏิเสธไม่ได้ว่า เรามักได้เห็นแคมเปญโฆษณา “งดเหล้าเข้าพรรษา” ของ “สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ” หรือ “สสส.” ออกมารณรงค์นักดื่มให้เห็นความสำคัญของการลด ละ เลิกดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงเข้าพรรษกันอย่างต่อเนื่อง แต่เมื่อรณรงค์มาเป็นเวลากว่า 20 ปี ความท้าทายจึงเกิดขึ้น ทั้งในแง่ของการสื่อสาร และพฤติกรรมของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไป จากเดิมที่เน้นกลุ่มเป้าหมายที่เป็นผู้ชายมาตลอด ผ่านการหยิบอินไซต์ใกล้ตัวนักดื่มมาเชื่อมโยงและสื่อสารแบบตรงไปตรงมา เพื่อให้นักดื่มเห็นพิษภัยของการดื่มแอลกอฮอล์ จนเกิดการเปลี่ยนพฤติกรรม

ถึงแม้ว่าช่วงเวลากว่า 2 ปีที่ผ่านมา ทั่วโลกและประเทศไทยเผชิญหน้ากับโควิด-19 จนทำให้พฤติกรรมการจับจ่ายหลายอย่างของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป และส่งผลกระทบกับภาคธุรกิจหลายกลุ่มอุตสาหกรรม อย่างไรก็ตาม เมื่อเจาะลึกลงไปในพฤติกรรมผู้บริโภคกลับพบข้อมูลที่ชวนประหลาดใจว่า “ผู้บริโภคกลุ่มอายุ 20-25 ปี ยังคงซื้อสินค้าประเภทเหล้า – เบียร์ ในปริมาณเท่าเดิม”

จากที่เคยมีความเคลื่อนไหวของรัฐบาลสิงคโปร์ในการใช้แอปพลิเคชัน SingPass ในการตรวจสอบอายุของผู้ซื้อเครื่องดื่มแอลกอฮอล์มาตั้งแต่ต้นปี ล่าสุด ได้มีการพัฒนาตู้ขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อัตโนมัติตามแนวคิดนั้นออกมาเรียบร้อยแล้ว

จากสถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid-19 ที่รุนแรงมากในสหภาพยุโรป จนมีผลให้รัฐบาลอังกฤษต้องสั่งปิดผับต่าง ๆ เพื่อความปลอดภัยไปนั้น ผลปรากฏว่า เมื่อผับปิด วิกฤติก็ตามมา เพราะคอเหล้าทั้งหลายไม่มีพื้นที่จะไปสังสรรค์กันได้อีก นำไปสู่การจัดปาร์ตี้บนโลกออนไลน์ท้าไวรัสกันเสียเลย

หนึ่งในประเทศที่อุตสาหกรรมเครื่องดื่มพัฒนาไปไกลมากที่สุด คงต้องยกให้กับ “ญี่ปุ่น” ที่เวลานี้ตลาดเครื่องดื่มที่นี่ ก้าวไปสู่สเต็ป Fragmentation แล้ว นี่จึงทำให้บริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มยักษ์ใหญ่ระดับโลกกำหนดให้ “ตลาดญี่ปุ่น” เป็น Strategic Country สำคัญ

สำหรับตลาดแอลกอฮอล์ เป็นอีกหนึ่งตลาดที่มีความหลากหลายในแง่ของ Segment โดยเฉพาะในกลุ่ม Ready to drink ที่เติบโตขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเทียบกับตลาดอื่นๆ ในช่วงปีที่ผ่านมา ทำให้การแข่งขันมีความเข้มข้นไม่แพ้รสชาติของเครื่องดื่มแต่ละตัวเลยทีเดียว ต้องบอกเลยว่าเทรนด์ของตลาด Ready to drink ถูกขับเคลื่อนด้วยรูปแบบการบริโภคของนักดื่ม ทำให้รูปแบบในการนำเสนอผลิตภัณฑ์ก็เปลี่ยนแปลงตามไปด้วยเช่นกัน

    ศูนย์วิจัยกสิกรไทย คาดการณ์ว่า ตลาดเครื่องดื่มในประเทศในปี 2556 จะมีมูลค่าประมาณ 4.1-4.2 แสนล้านบาท ขยายตัว 4-5% ชะลอตัวลงหากเทียบกับปีก่อนชะลอตัวลงเมื่อเทียบกับปีก่อนที่เติบโต 8% โดยแม้ในช่วงครึ่งปีหลัง จะยังคงมีปัจจัยท้าทายที่อาจกดดันตลาดเครื่องดื่ม โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 จากปัจจัยด้านฤดูกาล และจากความมั่นใจต่อการใช้จ่ายของประชาชนที่ลดลง แต่การปรับกลยุทธ์ของผู้ประกอบการในธุรกิจเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้สภาวะการแข่งขันยังคงรุนแรง น่าจะทำให้แนวโน้มยอดขายในช่วงครึ่งปีหลัง สามารถประคองอัตราการเติบโตไว้ได้ต่อเนื่องจากที่ทำไว้ในช่วงครึ่งปีแรก  ต่อไปนี้คือ กลยุทธ์การตลาดสำหรับสินค้าเครื่องดื่มในช่วงครึ่งหลังของปี 2556