CCSA

หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน ทำให้กระทรวงสาธารณสุข ประกาศเตือนภัยระดับ 4 หากไม่มีมาตรการดูแลควบคุมเพิ่มเติม ปลายเดือนนี้ตัวเลขจะแตะ 30,000 รายต่อวัน

หลังจาก ศบค.ได้ประกาศมาตรการผ่อนคลายในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ เพื่อรองรับการเปิดประเทศในวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 แต่ละพื้นที่ตามโซนสีทำอะไรได้บ้างสรุปได้ดังนี้

ในการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ชุดใหญ่วันนี้ (14 ตุลาคม) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยืนยันกำหนดการเปิดรับท่องเที่ยวต่างประเทศ จากประเทศเสี่ยงต่ำไม่ต้องกักตัว ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 รวมทั้งเตรียมมาตรการผ่อนคลายกิจการต่างๆ เพิ่มเติมในเดือน พฤศจิกายน-ธันวาคมนี้ โดยภาครัฐจะทำงานร่วมกับเอกชน เพื่อเตรียมการต่างๆ ให้พร้อมในช่วงเวลาที่เหลืออยู่อีก 2 สัปดาห์นี้ เพื่อเปิดรับนักท่องเที่ยวและฟื้นฟูอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยในช่วงปลายปีนี้เป็นต้นไป

การประชุม ศบค.ชุดใหญ่วันนี้ (27 ก.ย.2564) เพื่อผ่อนคลายเปิดกิจการและกิจกรรมเพิ่มเติม โดยให้เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2564 นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. สรุปมาตรการต่างๆ ดังนี้

หลังจากรัฐออกมาตรการคุมเข้มโควิด-19 สั่งล็อกดาวน์และเคอร์ฟิว จังหวัดพื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด มาตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. เมื่อเห็นว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เริ่มลดลงต่ำกว่า 2 หมื่นรายต่อวัน วันนี้ (27 ส.ค.) ศบค.ชุดใหญ่จึงมีมาตรการคลายล็อกเฟสแรกในกิจการและกิจกรรมต่างๆ ตั้งแต่วันที่ 1 ก.ย.2564

ตามแผนการฉีดวัคซีนโควิดให้กับประชาชนในปี 2564 ศบค. กำหนดไว้ 100 ล้านโดส หรือ 50 ล้านคน ดังนั้นอัตราการฉีดวัคซีนของระยะเวลาที่เหลือจะอยู่ต้องทำให้ได้ 15 ล้านโดสต่อเดือน โดยต้องฉีด 5 แสนโดสขึ้นไปต่อวัน

วันนี้ (16 สิงหาคม) ศบค.ชุดใหญ่ประชุมประเมินผลมาตรการล็อกดาวน์พื้นที่สีแดงเข้ม 29 จังหวัด ที่ครบกำหนด 14 วัน (นับตั้งแต่วันที่ 3 สิงหาคม 2564)