EMS

ยังคงเป็นหนึ่งในตลาดที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องสำหรับ “ธุรกิจขนส่งพัสดุ” โดยมีเหตุผลหลักๆ มาจากพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน หันมาซื้อของออนไลน์กันมากขึ้น จึงต้องการความสะดวก รวดเร็ว ทำให้ตลาดขนส่งพัสดุมีการเติบโตมากขึ้นตามไปด้วย โดยคาดว่าตลาดขนส่งในประเทศไทยปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 50,000 ล้านบาท

การเติบโตของตลาดอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ทำให้ธุรกิจโลจิสติกส์มูลค่า “แสนล้าน” อยู่ในภาวะแข่งขันรุนแรง มีผู้เล่นหน้าใหม่เข้ามาในตลาดต่อเนื่อง ทุกรายใช้ “สงครามราคา” แย่งชิงลูกค้า ธุรกิจขนส่งพัสดุวันนี้ พูดได้ว่าเป็นบริการ “ยิ่งใช้ราคายิ่งถูกลง” นับเป็นเรื่องที่องค์กร 139 ปี “ไปรษณีย์ไทย” ต้องแก้โจทย์

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ปรับตัวรับความต้องการพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ ส่งแคมเปญ “EMS ทุกวัน” อำนวยความสะดวกให้คนไทยใช้บริการ EMS ได้ทุกวันไม่มีวันหยุด เดินหน้าให้บริการนำจ่ายสิ่งของทุกประเภท ทุกวัน ทุกพื้นที่ทั่วไทย พร้อมจัดราคาพิเศษให้พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ หรือผู้ประกอบการธุรกิจ e-Commerce เริ่มต้นกิโลกรัมละ 25 บาท ตั้งแต่วันนี้ – มิ.ย. 2565

บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้าปรับลดอัตราค่าบริการ EMS ในประเทศสูงสุด 20% ตามเงื่อนไขส่งสิ่งของ/พัสดุ ในปริมาณตั้งแต่ 2-20 กิโลกรัม เพื่อแบ่งเบารายจ่ายของผู้ใช้บริการและลดความเสี่ยงในการออกนอกบ้านเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 โดยบริการ EMS ส่งด่วนทั่วไทยเป็นบริการที่ตอบโจทย์ประชาชนและร้านค้าออนไลน์ ช่วยพลิกฟื้น SMEs ไทยให้ไปต่อได้ในภาวะวิกฤต นอกจากนี้ไปรษณีย์ไทยยังได้ปรับปรุงฟีเจอร์บริการใหม่ เพื่อรองรับปริมาณการส่งสิ่งของที่มากขึ้น ผู้ใช้บริการสามารถตรวจสอบสถานะได้ตลอด 24 ชั่วโมง โดยจะเริ่มให้บริการในวันที่ 14 สิงหาคม 2564

การขยายตัวของธุรกิจ E-Commerce เป็นปัจจัยบวกสำคัญที่ผลักดันให้ธุรกิจ Logistic เติบโตมากขึ้น หนึ่งในเซ็กเมนต์ใหญ่ของธุรกิจ Logistic คือ ขนส่งพัสดุรายย่อย คาดการณ์ว่าปัจจุบันมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 27,000 ล้านบาท และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ย 10 – 20% ต่อปี ทำให้เวลานี้ ธุรกิจขนส่งพัสดุ กลายเป็นธุรกิจดาวเด่นที่มีอนาคตไกล จึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าในช่วง 3 – 5 ปีมานี้ นอกจาก Major Player รายเดิมแล้ว ยังมีผู้เล่นรายใหม่ …