EPL

หลังจากบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าได้รับสิทธิถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลพรีเมียร์ลีกและเอฟเอคัพ ครอบคลุมประเทศไทย ลาว และกัมพูชา

หลัง บมจ. จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ JAS ประกาศบรรลุข้อตกลงในการถือลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีกอังกฤษแต่เพียงผู้เดียวใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย กัมพูชา และลาว ทั้งการถ่ายทอดสด รีรัน และไฮไลต์ในทุกแพลตฟอร์มการรับชม ตั้งแต่ฤดูกาลหน้า 2025/26 เป็นต้นไป รวม 3 ฤดูกาล

สถานการณ์การติดไวรัสโควิด-19 ในอังกฤษและยุโรปมีแนวโน้มแย่ลงเรื่อยๆ นอกเหนือจากจำนวนที่วันพฤหัสที่ผ่านมามีจำนวนสูงถึง 590 ราย ยังมีบุคคลสำคัญที่ติดเชื้อร้ายนี้เพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็น นาดีน ดอรีส์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ที่ตรวจพบว่าเธอติดโรคนี้ซะเองแล้ว ล่าสุด Mikel Arteta(มิเกล อาร์เตเต้า) กุนซือพลังหนุ่มของ ทีมอาร์เซน่อล ก็พบว่าติดโรคนี้เช่นกัน

หลังจากยืดเยื้อมานานกับลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่ในตอนแรก Facebook เป็นผู้ที่คว้าสิทธิ์ไป แต่กลับเจรจากับพาร์ทเนอร์อื่นๆ รวมทั้งทำแผนการตลาดเพื่อเผยแพร่คอนเทนต์ได้ไม่ลงตัว ในที่สุด “ทรูวิชั่นส์ กรุ๊ป” ก็หวนกลับมาคว้าชัยชนะดึงเอาสิทธิ์ดังกล่าว ที่เคยเป็นช่องทางสร้างชื่อให้กับแบรนด์กลับมาครอบครองได้สำเร็จอีกครั้ง โดยในครั้งนี้ทรูฯ จะถ่ายทอดสด 380 แมตช์ ตลอด 3 ฤดูกาล ผ่านทางแพล็ตฟอร์มของทรูครบทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทรูวิชั่นส์ ทรูมูฟเอช ทรูออนไลน์ และทรูไอดี

หลังจากเดือนกรกฏาคม ปี 2018 Facbook สร้างความตื่นเต้นให้กับคอฟุตบอลในประเทศไทยอย่างมากด้วยการคว้าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษฤดูกาล 2019-2022 ใน 4 ประเทศ ได้แก่ ไทย เวียดนาม กัมพูชา และลาว ด้วยมูลค่าสูงถึง 200 ล้านปอนด์ แต่ดูเหมือนว่า การถ่ายทอดฟุตบอลผ่านทาง Facebook จะไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่วางเอาไว้ซะแล้ว