Huawei

“โต๋ – ศักดิ์สิทธิ์ เวชสุภาพร” ร่วมแจมงานเปิดตัวหูฟังไร้สายใหม่ล่าสุดจากแบรนด์หัวเว่ย HUAWEI FreeBuds 4i ที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ HUAWEI High-End Experience Store สยามพารากอน ท่ามกลางสื่อมวลชนคับคั่ง ว่ากันว่าหูฟังตัวนี้เป็น “คู่หู” ที่โดนใจหนุ่มโต๋ไปเสียหมด พกติดตัวไม่มีห่างเพราะตัดเสียงรบกวนได้ดีมาก แถมความคุ้มค่าคุ้มราคายังยืนหนึ่ง พอโดนแซวเล็กๆ ว่าประทับใจอะไรนัก ก็ได้รับคำตอบจากหนุ่มโต๋มาว่า “ผมว่าใครได้ลองใช้ก็ต้องชอบนะ เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่ในโลกของดนตรีเลยจริงๆ ผมว่าถ้าใครที่กำลังมองหาหูฟังไร้สายที่ดีด้วยแล้วก็คุ้มค่าคุ้มราคาด้วย อาจต้องลองโดนดูแล้วครับ”

ไม่ใช่ไม่สู้ต่อในธุรกิจสมาร์ทโฟน แต่ดูเหมือนว่าเวลานี้ หัวเว่ย (Huawei) บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่จากเมืองจีนจะต้องมองหาทางเลือกใหม่ ๆ เพื่อให้แบรนด์และพนักงานอีก 190,000 ชีวิตยังคงเติบโตต่อไปได้ ซึ่งลูกค้ารายล่าสุดของหัวเว่ยในตอนนี้อาจเป็น “ฟาร์มปลา” ที่มีฐานที่ตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของจีนอย่างมณฑลชานซีนั่นเอง

เป็นระยะเวลากว่า 1 ปีแล้วที่คนทั้งโลกแทบไม่ได้ออกไปนั่งรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ และครอบครัว เพราะการมาของโควิด-19 และมาถึงตอนนี้สถานการณ์แพร่ระบาดยังคงไม่คลี่คลาย ส่งผลให้ธุรกิจร้านอาหารต้องปรับเปลี่ยนรูปแบบการให้บริการหลายอย่าง ทั้งการจำกัดจำนวนคนเข้ามารับประทานอาหาร และความสะอาด ทำให้ “ไหตี่เลา” แบรนด์หม้อไฟชื่อดังจากเมืองจีน ผุดไอเดีย กินหม้อไฟทางไกลผ่านคลาวด์ เพื่อให้ผู้คนที่อยู่ห่างไกลได้รับประทานอาหารร่วมกันโดยที่ยังคงรักษาระยะห่างทางสังคมไว้อยู่

“สินค้าเพื่อคนรักสุขภาพ และกลุ่มโภชนบำบัด” ถือเป็นหนึ่งในเทรนด์มาแรงแห่งยุค Covid-19 ที่ใคร ๆ ต่างไม่อยากป่วย โดยหนึ่งในบริษัทที่เติบโตล้อไปกับเทรนด์ดังกล่าวได้อย่างน่าสนใจก็คือ “อินเตอร์ ฟาร์มา” (Interpharma) เห็นได้จากการประกาศผลประกอบการปี 2020 ที่พบว่า ยอดขายของบริษัทเติบโตขึ้นเป็น 442 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 60.5 ล้านบาท

ตอนนี้เราเดินทางมาถึงยุคที่เทคโนโลยีดิจิทัลก้าวเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตประจำวันและส่งผลต่อการทำธุรกิจมากขึ้นทุกวัน ถ้าลองย้อนกลับไปสมัยก่อน ใครจะคาดคิดว่าโทรศัพท์มือถือที่ใช้โทรออก-รับสายจะกลายร่างมาเป็นสมาร์ทโฟนที่แทบจะทำทุกอย่างได้บนสมาร์ทโฟนเล็กๆ เพียงเครื่องเดียว และเทคโนโลยีที่เราว่าล้ำๆ ตอนนี้ ในอนาคตคงจะเพิ่มประสิทธิภาพจนทำให้มนุษย์สะดวกสบายมากขึ้นกว่าเดิมแน่นอน โดยเฉพาะ 4 เทรนด์เทคโนโลยีต่อไปนี้ที่ หัวเว่ย คาดการณ์ว่าจะเปลี่ยนแปลงชีวิตคนและโลกการทำธุรกิจในอีก 5 ปีข้างหน้า

ผู้ก่อตั้งและซีอีโอ Huawei (หัวเว่ย) Ren Zhengfei ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณชนเป็นครั้งแรกในรอบปี พร้อมเปิดเผยความต้องการอยากคุยกับประธานาธิบดี “โจ ไบเดน” (Jo Biden)

แอปเปิล (Apple) โชว์ผลประกอบการไตรมาส 1 ของปี 2021 ทำรายได้เพิ่มขึ้น 21% แตะ 111,400 ล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ (ประมาณ 3.3 ล้านล้านบาท) ซึ่งเหนือกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 103,100 ล้านเหรียญสหรัฐไปมากพอดู โดยหัวใจหลักคือ iPhone ที่ไตรมาสนี้ทำรายได้ไปถึง 65,600 ล้านเหรียญสหรัฐเลยทีเดียว (ประมาณ 1.9 ล้านล้านบาท)

การจะให้รถอัจฉริยะสามารถขับเคลื่อนไปบนถนนตามลำพังอาจเป็นสิ่งที่บริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งพยายามทำ แต่แนวคิดนั้นอาจไม่เพียงพอสำหรับรถสาธารณะที่ต้องดูแลชีวิตผู้โดยสาร หรือรถบรรทุกที่มีขนาดใหญ่

เชื่อว่าหลายคนคุ้นเคยกับชื่อของแสนรู้ (Zanroo) ในฐานะบริษัทด้านการวิเคราะห์ข้อมูล ที่มาพร้อมเครื่องมือด้าน Social Listening ที่จำเป็นสำหรับนักการตลาด แต่นั่นอาจไม่ใช่กับแสนรู้ใน พ.ศ. นี้ ที่ผู้บริหารออกมายอมรับว่า ได้ทรานสฟอร์มตัวเองไปเป็น Data Company แล้วเรียบร้อย

เชื่อว่าหลายคนยังจำได้ดีถึงการออกมาประกาศตัวเลขยอดขายสมาร์ทโฟนของหัวเว่ย (Huawei) เมื่อปี 2018 ที่ทำได้ถึง 200 ล้านเครื่อง ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่สูงมาก อีกทั้งในสามเดือนต่อมา (มีนาคม 2019) หัวเว่ยยังสร้างความตกตะลึงด้วยการประกาศผลประกอบการปี 2018 ที่ทำรายได้ทะลุแสนล้านเหรียญสหรัฐเป็นครั้งแรกด้วย

ไม่รู้ว่าเป็นข่าวดีของหัวเว่ย (Huawei) หรือเปล่า แต่สื่อญี่ปุ่นอย่าง Nikkei มีการรายงานว่า บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง โซนี่ (Sony), ซัมซุง ดิสเพลย์ (Samsung Display) และ ออมนิวิชัน (Omnivision) ได้รับไลเซนส์จากรัฐบาลสหรัฐอเมริกาให้สามารถขายชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์บางอย่างให้หัวเว่ยได้แล้ว

HUAWEI CLOUD และ KBTG จัด Cloud Diary Special Session ซึ่งเป็นการสัมมนาออนไลน์ฟรีผ่านการสตรีมสดบนหน้า Facebook (@HuaweiCloudTH) วันที่ 24 กันยายน เวลา 15.00 น. HUAWEI CLOUD ประเทศไทย

ท่ามกลางกระแสการแบนอุปกรณ์เครือข่าย 5G ของค่ายผู้ผลิตจีนอย่าง Huawei และ ZTE ที่รัฐบาลสหรัฐอเมริกาตั้งกำแพงในเรื่องความมั่นคง และความปลอดภัยของข้อมูล ล่าสุดมีความเคลื่อนไหวที่น่าสนใจเกิดขึ้นเมื่อ “Samsung Electronics“ กลายเป็นแบรนด์ที่สามารถคว้าดีล 5G มูลค่า 6,600 ล้านเหรียญสหรัฐจากค่าย Verizon ผู้ให้บริการโทรคมนาคมสัญชาติสหรัฐฯ มาได้อย่างเป็นทางการ แถมดีลดังกล่าวยังถือเป็นการเซ็นสัญญา 5G ที่มีมูลค่ามากที่สุดของ Samsung นับตั้งแต่ตัดสินใจลงมาแข่งพัฒนาเทคโนโลยีเครือข่าย 5G เลยทีเดียว

สร้างเสียงฮือฮาได้มากทีเดียวสำหรับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ให้สัมภาษณ์นักข่าวเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาตามเวลาในสหรัฐอเมริกา หรือเมื่อไม่กี่ชั่วโมงนี้ตามเวลาในประเทศไทย ว่าเขาจะจัดการแบนแอปพลิเคชัน TikTok ให้พ้นสหรัฐอเมริกาเร็วที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ ซึ่งอาจหมายถึงวันเสาร์นี้

ดูท่าว่าจะไม่จบง่ายๆ สำหรับการปะทุขึ้นอีกระหว่าง “จีน” กับ “อินเดีย” หลังจากก่อนหน้านั้น “รัฐบาลอินเดีย” ได้สั่งแบนแอปพลิเคชันของประเทศจีนรวมแล้ว 59 แอปฯ เช่น แอปฯ TikTok ของ ByteDance ซึ่งประเทศอินเดีย ถือเป็นหนึ่งในตลาดใหญ่ของ TikTok โดยมีผู้ใช้งานมากถึง 120 ล้านคน และ WeChat ของกลุ่ม Tencent บริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของจีน และระดับโลก  ทางการอินเดียให้เหตุผลถึงการสั่งแบนแอปพลิเคชันของจีนว่า เป็นภัยต่ออธิปไตย ความมั่นคง …

บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เผยประเทศไทยเป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยี 5G ของภูมิภาคอาเซียน ซึ่ง Ecosystem ของ 5G จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจ และบริการใหม่ ๆ มากขึ้น ที่สำคัญ 5G ยังช่วยให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวและบริการฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ได้ดีขึ้น จากการประยุกต์ใช้แอปพลิเคชันและบริการรูปแบบใหม่ซึ่งเกิดจากเครือข่ายความเร็วสูงแห่งอนาคต

จบไปแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับงานประชุมสุดยอด Huawei Global Analyst Summit (HAS) 2020 ที่อาจกล่าวได้ว่า ทำให้เราเห็นถึงความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีเครือข่ายในหลาย ๆ ด้าน รวมถึงได้เห็นทิศทางด้วยว่า โลกแห่งความเป็นอัจฉริยะ หรือ Intelligent World นั้น จะพุ่งเข้ามาหาเราในรูปแบบใด

เปิดประเทศหลังภัย Covid-19 ผ่านพ้นไปได้ไม่ทันไร จีนก็เริ่มอัปเกรดบริการ Delivery ของตัวเองไปอีกระดับแล้ว โดยผู้เล่นที่ออกตัวรายแรกคือ “Meituan” แอปพลิเคชันด้าน Food Delivery ที่มาพร้อมข้อเสนอใหม่แก่ผู้ใช้งาน นั่นคือ สามารถสั่งซื้อ “สมาร์ทโฟน” ได้จากแอปไม่ต่างจากการสั่งซื้อก๋วยเตี๋ยว หรือเกี๊ยวซ่า

น่าจะเป็นความท้าทายรอบใหม่ที่ Google ต้องเผชิญในปี 2020 เมื่อล่าสุด มีรายงานว่า ค่ายมือถือสามยี่ห้อของระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์อย่าง Xiaomi, OPPO และ Vivo กำลังจะสร้าง App Store ของตัวเองออกมาเป็นทางเลือกนอกเหนือจาก Google Play Store กันแล้ว ในชื่อ Global Developer Service Alliance (GDSA)

หลังจากตัวเลขผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาทะยานขึ้นทะลุ 6,000 คน ทั่วโลก มหาเศรษฐีทั้งหลายไม่ว่าจะเป็น Bill Gates, Jack Ma หรือบริษัทใหญ่ในโลกแฟชั่น ซึ่งมีธุรกิจในจีน ไม่ได้นิ่งนอนใจ ส่งเงินบริจาคเพื่อเพื่อคิดค้นยา, วัคซีน เพื่อสู้กับโรคนี้ให้ได้

ช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา กระแสของการเปิดร้านค้าแบบไร้พนักงาน (Smart Unmanned Store) อาจเป็นสิ่งที่หลายแบรนด์พยายามไล่ตามเพื่อสร้างภาพแห่งความไฮเทค อย่างไรก็ดี สิ่งที่ต้องยอมรับก็คือ ร้านค้าแบบไร้พนักงาน (แคชเชียร์) ที่เปิดทำการกันนั้น บางแบรนด์ที่เราเห็นกันจนชินตาเน้นไปที่การขายอาหาร หรือเครื่องดื่ม ซึ่งทำให้ร้านค้าเหล่านั้นต้องมีพนักงานตัวเป็น ๆ เดินขวักไขว่เพื่อจัดสินค้าภายในร้าน ไม่ได้ไร้พนักงานแบบ 100% อย่างที่ผู้บริโภคคาดหวังว่าจะได้เห็น

หลังจาก HUAWEI เดินหน้าพัฒนาอีโคซิสเต็มของตัวเอง HMS หรือ HUAWEI Mobile Services ผ่านแอปพลิเคชั่นและบริการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น HUAWEI App Gallery, Mobile Cloud และอื่นๆ เพื่อให้ผู้ใช้ สามารถใช้งานคุณสมบัติต่างๆ บนดีไวซ์ได้ราบรื่นมากขึ้น ล่าสุดได้เสริม “บริการด้านการเงิน” จากหลากหลายธนาคารชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็น K PLUS ของธนาคารกสิกรไทย ME by TMB ของธนาคารทหารไทย และ …

“หัวเว่ย ประเทศไทย” เผยภารกิจสร้างอีโคซิสเต็มเทคโนโลยีในประเทศไทย รับการฉลองครบรอบ 20 ปีของการดำเนินธุรกิจ ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการนำเทคโนโลยีไอซีทีที่ล้ำสมัยที่สุดเข้าสู่ประเทศไทย ภายใต้สโลแกน “สานพลังนวัตกรรม เชื่อมไทยสู่อนาคต”

  งานเข้า Huawei อีกรอบ แต่คราวนี้เกิดในประเทศตัวเอง เมื่อโดนชาวจีนลุกฮือ ติดแฮชแท็ก #HuaweiGetoutofChina หลังพบว่าบริษัทมีการตั้งไทม์โซนที่หมิ่นเหม่จะทำให้เข้าใจผิดใหญ่หลวง เพราะไปแสดงสถานะของกรุงไทเปว่าเป็นเมืองหลวงของ “ไต้หวัน” แทนที่จะเป็นส่วนหนึ่งของจีนแผ่นดินใหญ่

เปิดตัวแล้วอย่างเป็นทางการสำหรับระบบปฏิบัติการทางเลือกจาก Huawei ในชื่อ Harmony OS โดยการประกาศครั้งนี้มีขึ้นในงาน Huawei Developer Conference ที่บริษัทจัดขึ้น และมีซีอีโออย่างริชาร์ด หยู (Richard Yu) เป็นผู้ประกาศข่าวสุดเซอร์ไพรส์นี้ด้วยตัวเอง

สื่อจีนอ้างแหล่งข่าวภายใน Huawei บริษัทผู้ผลิตสมาร์ทโฟนชื่อก้อง ชี้เตรียมเปิดตัวสมาร์ทโฟนเวอร์ชันที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Hongmeng แล้วภายในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ คาดมีราคาราว 2,000 หยวน หรือประมาณ 8,700 บาทเท่านั้น

การเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภคจากการซื้อมาเป็น “การเช่า หรือขอยืม” แนวคิดนี้อาจไม่ใช่เรื่องใหม่ และเคยเกิดขึ้นมาแล้วกับบริการประเภท Ride-Sharing ที่สามารถทำให้ผู้บริโภคมองการครองครองสินทรัพย์ เช่น รถยนต์ หรือบ้านพัก ว่าเป็นภาระที่เจ้าของต้องแบกรับ ทั้งเรื่องของภาษี ค่าเสื่อมราคา การขายต่อที่ขาดทุน ฯลฯ แต่ล่าสุดแนวคิดนี้กำลังขยายมาสู่ตลาด “โทรศัพท์มือถือ” ด้วยเช่นกัน หลังพบว่าตลาดดังกล่าวกำลังเผชิญกับโจทย์ใหม่ที่ท้าทายทั้งปัญหาตลาด “อิ่มตัว” และการที่ผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องช้ามากขึ้น

สื่อใหญ่อย่าง Washington Post รายงานโดยอ้างอิงจาก 3 แหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อว่า ตอนนี้ Huawei(หัวเว่ย) กำลังร่วมมือกับบริษัทเทคโนโลยี Koryolink ของเกาหลีเหนือ พัฒนาระบบ 3G ในดินแดนโสมแดง ด้วยการส่งอุปกรณ์หลายอย่างให้

จะเรียกว่าเป็นผลพวงจากนโยบายกีดกันการค้าของรัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ก็ว่าได้ เพราะหลังจากขึ้นแบล็กลิสต์ Huawei จนสร้างความปั่นป่วนให้กับแบรนด์และผู้ใช้งานทั่วโลกไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ล่าสุด ทาง Huawei ก็ออกมาประกาศแผนปลดพนักงานในสหรัฐอเมริกาบ้างแล้ว โดยคาดว่าจะมีการปลดคนงานนับร้อยตำแหน่งจากการประกาศครั้งนี้เลยทีเดียว

“คนที่ถูกฆ่าแล้วไม่ตาย จะยิ่งแข็งแกร่งขึ้น” ประโยคนี้มาจากคุณ “อิงมาร์ หวาง” หรือหวางยี่โชว ผู้อำนวยการหัวเว่ย คอนซูมเมอร์ บิสสิเนส กรุ๊ป ประเทศไทย ที่กล่าวกับผู้สื่อข่าวในการให้สัมภาษณ์กลุ่มย่อยเมื่อเร็ว ๆ นี้ และน่าจะเป็นประโยคที่สะท้อนถึงสถานการณ์ของ Huawei ในขณะนี้ได้เป็นอย่างดี