Lazada

ลาซาด้า ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเปิดรายงาน “การใช้เทคโนโลยี AI ในอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Artificial Intelligence Adoption in eCommerce in Southeast Asia)” ซึ่งทำร่วมกับ Kantar เป็นครั้งแรก โดยภายในรายงานดังกล่าวได้สำรวจความคิดเห็นของนักช้อปกว่า 6,000 คนใน 6 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้เกี่ยวกับการใช้งาน AI บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ

หลังการแพร่ระบาดของโควิด-19 เทรนด์ Beauty At Home หรือการดูแลตัวเองที่บ้านได้กลายมาเป็นตัวเลือกของหลายคน ควบคู่ไปกับการเติบโตของอีคอมเมิร์ซ ผลการสำรวจโดย McKinsey & Company ระบุว่า ยอดขายสินค้าความงามผ่านแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซมีอัตราการเติบโตสูงที่สุด โดยคาดว่าระหว่างปี 2022 – 2027 มีแนวโน้มเติบโตราว 12% ทั่วโลก

ลาซาด้า ประเทศไทย เผยภาพรวมความสำเร็จ “กำไรทั้งกรุ๊ปครั้งแรก” ในประวัติศาสตร์ (ในหกประเทศที่เปิดให้บริการ) โดยมีไทยและเวียดนามเป็นผู้นำสำคัญ พร้อมเปิดเทรนด์ Gen Z รับจบ สั่งสินค้าให้ทุกคนในบ้าน ด้านซีอีโอชู 3 กลยุทธ์ครึ่งปีหลัง “ขยายฐานนักช้อปขาประจำกลุ่มสินค้าพรีเมียม-แฟชัน-ความงาม เสริมแกร่งด้วย AI และสนับสนุน SME ไทยให้เติบโตอย่างยั่งยืน”

ในยุคที่การชอปปิงออนไลน์กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน สะท้อนได้จากผลการสำรวจของสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA ที่พบว่า E-Commerce ในกลุ่ม B2C (Business to Customer) ครองแชมป์สัดส่วนมูลค่าอีคอมเมิร์ซมากที่สุดของไทย โดยช่องทางการขายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือ e-Marketplace ที่ประเทศไทยมีผู้เล่นมากมายให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อตามชอบใจ ไม่ว่าจะเป็น Shopee, Lazada, Temu ฯลฯ นั้น

ลาซาด้า จัดใหญ่ยกขบวนผีมอบความ “หลอน” แบบจัดเต็มใจกลางสยามสแควร์ พร้อมจัดถ่ายทอดสด “9.9 นี้ไม่มีหลอน เปลี่ยนมาลาซาด้า” ขนทัพสินค้าแบรนด์ดังลดกระหน่ำในช่วงแคมเปญ ตั้งแต่สองทุ่มวันที่ 8 กันยายน 2567 จนถึงเที่ยงคืนวันที่ 11 กันยายน 2567

ลาซาด้า เปิดข้อมูล LazMall  เผยแบรนด์ที่เข้าร่วม Brand Membership ทั่วภูมิภาคมีอัตราการเติบโตของยอดขายและมูลค่าการสั่งซื้อสินค้าต่อครั้งเพิ่มขึ้นถึงสองหลัก โดยยอดขายรวม (GMV) เติบโตขึ้นถึง 1.9 เท่า เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

ปัญหาของผู้ขายออนไลน์หลายคนอาจคือ อาจจะเจอกับภาวะขาดทุน แม้สินค้าจะขายดีจนทุบสถิติ นั่นเป็นเพราะความสำเร็จในการค้าขายบนอีคอมเมิร์ซไม่ได้วัดจากจำนวนสินค้าที่ขายได้เพียงอย่างเดียว แต่ยังมีหัวใจสำคัญอยู่ที่การมองเห็นภาพรวมประสิทธิภาพของร้านค้า หรือการวิเคราะห์และตรวจสุขภาพของธุรกิจ เพื่อให้สามารถระบุปัญหาและรักษาได้อย่างทันท่วงที และช่วยให้ผู้ขายรู้ว่าควรต้องเร่งพัฒนาหรือใช้ประโยชน์จากธุรกิจในส่วนใด อีกทั้งยังช่วยให้ตั้งเป้าหมายที่เหมาะสม และตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างแม่นยำยิ่งขึ้น

ท่ามกลางความกังวลของหลายฝ่ายว่า กระแสทุนจีน-ธุรกิจจีนกำลังถาโถมเข้ามาในประเทศจนทำให้ SME ไทยเสียศูนย์ และทยอยปิดกิจการไปนั้น แต่สำหรับสมรภูมิอีคอมเมิร์ซ นี่อาจเป็นไม่กี่ครั้งที่คนไทย (ซึ่งไม่มีแพลตฟอร์มของตัวเอง) ได้เห็นการแข่งขันกันของผู้เล่นจากชาติเดียวกันเข้ามาชิงส่วนแบ่งในตลาดบ้านเรา กับการปะทะกันของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสัญชาติจีนอย่าง “Temu” ที่กำลังเข้ามาชิงส่วนแบ่งจาก Lazada บริษัทที่มี Alibaba เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่นั่นเอง

“ป้อม-ภาวุธ” ฉายภาพ SME ไทย เผชิญมรสุมหลายด้าน ทั้งจากแพลตฟอร์มมาร์เก็ตเพลสยักษ์ใหญ่ที่ขึ้นค่าธรรมเนียมอย่างรวดเร็ว แถมยังปิดกั้นไม่ให้เข้าถึงข้อมูลลูกค้าทำให้ SME ไม่สามารถนำข้อมูลลูกค้าของตนเองมาทำการตลาดดิจิทัลเพื่อต่อยอดได้ แนะพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ไทยเร่งเพิ่มทางเลือกให้ตัวเอง อย่ายึดติดแพลตฟอร์มต่างชาติ และต้องพร้อมปรับตัว – เพิ่มประสิทธิภาพด้วยเครื่องมือดิจิทัลเพื่อให้ยังสามารถแข่งขันได้

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ร่วมเฉลิมฉลองวันสตรีสากล ส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่ผู้หญิงที่กำลังเดินตามความฝันในเส้นทางธุรกิจ ผ่านเรื่องราวของผู้ประกอบการหญิงบนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ โดยบอกเล่าผ่านภาพถ่ายของ 6 ผู้หญิงเก่ง เจ้าของแบรนด์รุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จบนแพลตฟอร์มลาซาด้าทั้ง 6 ประเทศในภูมิภาค โดยในประเทศไทย ลาซาด้า ได้บอกเล่าเรื่องราวของ MERGE แบรนด์กางเกงยีนส์ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของผู้หญิงทุกกลุ่ม

Lazada แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเครือ Alibaba ประกาศปรับโครงสร้างองค์กร ซึ่งนักวิเคราะห์ต่างคาดการณ์ว่าจะนำไปสู่การเลย์ออฟพนักงานครั้งใหญ่ทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะในสิงคโปร์ที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบสูงสุด อีกทั้งยังสอดคล้องกับคู่แข่ง เช่น Shopee แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซจากสิงคโปร์ของค่าย Sea ที่เคยประกาศเลย์ออฟพนักงานมาแล้วเช่นกันในช่วง 1 – 2 ปีที่ผ่านมา

เทศกาลคนโสด 11.11 ปีนี้จะเปลี่ยนไป เมื่อ ลาซาด้า (Lazada) ประกาศขยายเวลาการจัดอีเวนท์เป็น 3 วันทั่วทั้งภูมิภาค (จากก่อนหน้านี้ที่จัดแค่ 1 วัน) พร้อมดึง Gamification เป็นฟีเจอร์ชูโรง และเพิ่มสองฟีเจอร์ใหม่อย่าง AR – เสิร์ชหาสินค้าจากภาพถ่าย เพื่อให้การช้อปง่ายขึ้น โดยมีหมวดสินค้า “ความงาม – ไอที” ติดโผเทรนด์สินค้ามาแรงช่วงปลายปี

ยักษ์ใหญ่อีคอมเมิร์ซ “ลาซาด้า” (Lazada) เปิดตัวอีกหนึ่งแม่ทัพรับการแข่งขันปลายปี กับพื้นที่ให้บริการโลจิสติกส์ย่านบางนาภายใต้ชื่อ “ศูนย์คัดแยกสินค้าเทพารักษ์” ขนาด 35,000 ตารางเมตร ที่รองรับการคัดแยกพัสดุได้สูงสุดถึง 2 ล้านชิ้นต่อวัน

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัวศูนย์กระจายสินค้าท่าแร้ง รามอินทรา นำร่องโลจิสติกส์ฮับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมแห่งแรกในประเทศไทย ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการสร้างธุรกิจอีคอมเมิร์ซที่ยั่งยืนและสร้างผลกระทบเชิงบวกให้สังคม โดยศูนย์ฯ ดังกล่าวมุ่งลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมผ่าน 3 แนวทางหลัก ได้แก่ การใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับการดำเนินงานภายในศูนย์ฯ การใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในการขนส่งสินค้า ซึ่งทำให้การขนส่งกว่า 70% ของศูนย์ฯ เป็นการใช้พลังงานสะอาด และชุดยูนิฟอร์มสำหรับตัวแทนจัดส่งสินค้าที่ผลิตจากขวดพลาสติก PET รีไซเคิล

ลาซาด้า ประเทศไทย เปิดข้อมูลออเดอร์ช่วงแคมเปญ 6.6 พบสูงกว่าช่วงเวลาปกติของปี 2566 ถึง 225% ขณะที่ตัวเลขร้านค้าบนลาซาด้ามีการเติบโตถึงกว่า 30% จากปีก่อนหน้า รวมถึงมียอดสมาชิกใหม่ใน LazBEAUTY ที่โตกว่า 120% ในช่วงครึ่งปีแรก พร้อมแนะเครื่องมือช่วยผู้ค้าผ่านกรณีศึกษาของสองแบรนด์เครื่องสำอางจากยูทูบเบอร์ดัง

แม้จะเปิดตัวได้ไม่นาน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า TikTok Shop กำลังเป็นช่องทางที่ทรงพลังมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะบนโลกอีคอมเมิร์ซ และในปี 2023 นี้ มีการคาดการณ์จาก Momentum Works บริษัทด้านที่ปรึกษาจากสิงคโปร์ ระบุว่า TikTok Shop กำลังเติบโตและอาจมีมูลค่า GMV แตะ 15,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ก็เป็นได้

กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมนุษย์ (พม.) และ ลาซาด้า ประเทศไทย เผยผลสำเร็จจากกิจกรรมภายใต้หลักสูตร “Senior Entrepreneur ผู้ประกอบการวัยเก๋า” ซึ่งได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากกลุ่มผู้ประกอบการเข้าร่วมโครงการกว่า 340 ราย จากการจัดกิจกรรมใน 6 จังหวัดทั่วประเทศ ระหว่างเดือนพฤษภาคม – กรกฏาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายให้ผู้ประกอบการในกลุ่มเปราะบางสามารถนำความรู้ที่ได้จากหลักสูตรไปประยุกต์ใช้ในการทำธุรกิจออนไลน์บนช่องทางอีคอมเมิร์ซ เพื่อสร้างรายได้อย่างยั่งยืน และพึ่งพาตนเองได้ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล

ที่ผ่านมา โฆษณาในแวดวงอีคอมเมิร์ซ (แอปฯ ช้อปปิงต่าง ๆ) มักจะทำตลาดโฟกัส ‘จำนวนเพิ่มผู้ใช้งาน’ เป็นหลัก เราจึงเห็นการฟาดฟัน โหมกระหน่ำ ไม่ว่าจะเป็นการสื่อสารเรื่องโปรโมชั่น จำนวนร้านค้า หรือดีลเด็ดประจำเดือนที่ดึงดูดความสนใจให้ผู้ใช้งานเข้ามาช้อปสินค้าจากแพลตฟอร์ม

แม้จะประกาศผลประกอบการเป็นบวกครั้งแรกในไตรมาส 4 ของปี 2022 แต่กลุ่ม Sea บริษัทเทคโนโลยีในสิงคโปร์ก็ยังเดินหน้าลดคนต่อเนื่อง โดยคราวนี้เป็นธุรกิจอีคอมเมิร์ซอย่าง Shopee ในอินโดนีเซียที่จะถูกเลย์ออฟอีกกว่า 500 คน

ตลาดอีคอมเมิร์ซไทยกำลังมาถึงจุดเปลี่ยนอีกครั้ง หลังจากที่เหลือผู้เล่นรายใหญ่แค่สองราย จากการถอนตัวออกไปของ JD.com เมื่อเร็ว ๆ นี้ โดยภาพของการเปลี่ยนแปลงถูกถ่ายทอดผ่านผู้ให้บริการแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซเบอร์ใหญ่ของวงการอย่างลาซาด้า (Lazada) ที่คาดการณ์ว่า มูลค่าตลาดอีคอมเมิร์ซในปีนี้จะเติบโตขึ้น 13% หรือคิดเป็นมูลค่า 6 แสนล้านบาท และจะทำให้ตลาดอีคอมเมิร์ซมีส่วนแบ่งในธุรกิจค้าปลีกเป็น 16% นอกจากนี้ ทางลาซาด้ายังคาดการณ์ด้วยว่า ภายในปี 2025 ผู้ใช้งานอีคอมเมิร์ซไทยจะเติบโตขึ้นเป็น 61.8% ของจำนวนประชากร หรือเท่ากับ 43.5 ล้านคนเลยทีเดียว

ในยุคที่สินค้ามีความหลากหลาย และผู้บริโภคสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้ง่ายดายและรวดเร็ว ทำให้ผู้บริโภคยุคนี้เปิดกว้างพร้อมรับแบรนด์ใหม่ๆ หรือลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่มากขึ้นกว่าเดิม ส่งผลให้แบรนด์ใหม่มีโอกาสแจ้งเกิดในตลาดมากมาย ขณะที่แบรนด์เก่าที่อยู่ในตลาดมาก่อน ต้องปรับกลยุทธ์การทำตลาดให้เร็วเพื่อให้เข้ากับยุคสมัยและพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปอยู่ตลอดเวลา เพื่อให้แบรนด์ยังคงอยู่ในใจลูกค้าทุกกลุ่มและทุกยุคสมัย

เพราะว่าจากการสำรวจของ ลาซาด้า(Lazada) เอง พบว่า 73% มองว่าการซื้อของออนไลน์เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตไปแล้ว ขณะที่มีถึง 46% ยังจะซื้อของออนไลน์ทุกอาทิตย์ นั่นแปลว่า การซื้อสินค้าผ่านแพลตฟอร์มกลายเป็นพฤติกรรมที่ผู้บริโภคคนไทยคุ้นเคยไปแล้ว อย่างไรก็ตาม ในโอกาสที่ Lazada ดำเนินการในประเทศไทยมานานนับ 10 ปี จนเป็นหนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของประเทศและภูมิภาค การยกระดับประสบการณ์การช้อปปิ้ง ให้มีความหมายมากกว่าเดิม จึงเป็นโจทย์ใหญ่ที่งานนี้ไม่ใช่อาศัยเพียงแค่ Benefit Approach เท่านั้น แต่ต้องเติม Emotional Approach เข้าไปด้วย

ปิดฉากไปเป็นที่เรียบร้อยกับมหกรรมช้อปปิงจากแคมเปญ ‘ลาซาด้า 9.9 ลดอลัง ปังทุกแบรนด์’ พร้อมทุบสถิติใหม่ ด้วยยอดขายบน LazMall สูงเป็นประวัติการณ์ถึง 23 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ โดยยอดขายสินค้าความงามและแฟชั่นยังเพิ่มขึ้นกว่า 5 เท่าทั้งบน LazMall และร้านค้าต่าง ๆ บนแพลตฟอร์ม เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ เนื่องจากนักช้อปเริ่มกลับมาใช้ชีวิตตามปกติเช่นเดียวกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด-19

อีคอมเมิร์ซไทยยังร้อนแรง โดยเฉพาะในศึก 9.9 ของปีนี้ ที่แม้ประเทศไทยจะเริ่มเผชิญปัญหาเงินเฟ้อ – ค่าครองชีพพุ่ง แต่ผู้บริหาร 2 แพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่อย่างลาซาด้า (Lazada) และช้อปปี้ (Shopee) ก็ยังยืนยันว่า แพลตฟอร์มของตนเองเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในแง่ผู้ซื้อ ร้านค้า และออเดอร์ พร้อมเผยพฤติกรรมผู้บริโภค หันมาซื้อของล็อตใหญ่ในช่วงเมกะเซลล์เพิ่มขึ้น

ลาซาด้า (Lazada) หนึ่งในผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมา 10 ปี และผ่านช่วงเวลาของการเกิดเติบโตอย่างก้าวกระโดดเมื่อเกิดโรคระบาดและล็อกดาวน์จนภาพรวมการช็อปปิ้งของผู้คนเปลี่ยนแปลงไปอย่างมหาศาล ในวันนี้ที่ทั่วโลกเดินหน้าเข้าสู่โลกยุคใหม่หลังเกิดโรคระบาด (Post-Pandemic) มีอะไรบ้างที่น่าจับตามองในวงการอีคอมเมิร์ซ นี่คือ อินไซต์และมุมมองจาก Lazada

ลาซาด้า ประเทศไทย ส่งเมกะแคมเปญใหญ่ กับ  “6.6 เซลใหญ่สุดในกลางปี: อัพไอเทมใหม่ให้ ชีวิตปังกลางปี” ตลอด 3 วันเต็ม ช่วยนักช้อปไทยประหยัดเงินในกระเป๋าได้ถึง 115 ล้านบาท ผ่านการใช้ลาซาด้าโบนัส โดยสินค้าหมวดหมู่แฟชันและบิวตี้มีอัตราการเติบโตขึ้นมากถึง 4 เท่าตัว เมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ

เรื่องฮอตโซเชียลในเทศกาลดับเบิลเดย์ 5.5 มากับประเด็นแรง #แบนลาซาด้า ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ไทย จากคลิปวิดีโอโฆษณาแคมเปญลดราคาสินค้าของมาร์เก็ตเพลสชื่อดัง Lazada ผ่านคลิป Tiktok ของ “นารา เครปกะเทย” เน็ตไอดอล ที่เนื้อหาบางส่วนถูกมองว่าล้อเลียนผู้ป่วยหรือผู้พิการ ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสม

จากกรณีดราม่าการโพสต์คลิปของอินฟลูเอนเซอร์ “นารา เครปกระเทย” ที่มีเนื้อหาไม่เหมาะสม และมีการแสดงออกในลักษณะหมิ่นผู้พิการ จนกลายเป็นกระแสโจมตีแบรนด์ที่ปรากฏในคลิป นั่นก็คือลาซาด้า (Lazada) แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยักษ์ใหญ่ ภายใต้แฮชแท็ก #แบนลาซาด้า นั้น ล่าสุดได้มีการส่งหนังสือชี้แจงจากทางบริษัท ลาซาด้าถึงกรณีดังกล่าวแล้ว โดยมีเนื้อหาดังนี้

ลาซาด้า ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เปิดตัว มูลนิธิลาซาด้า สร้างพลังในการส่งเสริมผู้หญิงและเยาวชนในภูมิภาคฯ ให้ได้รับโอกาสทางการศึกษาเพื่อรองรับเศรษฐกิจดิจิทัลและหยุดความเหลื่อมล้ำทางเพศในการเข้าถึงโลกดิจิทัล การสื่อสาร เทคโนโลยี และเครื่องมือดิจิทัลต่างๆ ซึ่งมูลนิธิจะมีการมอบทุนการศึกษาและสร้างโอกาสการเติบโตด้านอาชีพให้กับเยาวชนที่มีความสามารถใน 6 ประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และเวียดนาม

ปัจจุบันเราไม่อาจปฏิเสธได้ว่า “โซเชียลมีเดีย” (Social Media) เข้ามามีอิทธิพลในชีวิตประจำวันของผู้คนสูงขึ้นเรื่อยๆ และผู้บริโภคชาวไทยเป็นหนึ่งในประเทศที่ใช้เวลาไปกับ Social Media มากติดอันดับต้นๆ ของโลก โดยคิดเป็น 78% ของประชากรทั้งหมด โดยมีการใช้งาน Facebook มากเป็นอันดับ 8 ของโลก ส่วน Facebook Messenger ใช้มากเป็นอันดับ 6 ของโลก และ Instagram มากเป็นอันดับที่ 16 ของโลก จากพฤติกรรมเหล่านี้ …