“เศรษฐศาสตร์ของคนขี้เกียจ” หรือ Lazy Economy ถูกสะท้อนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในปัจจุบันที่ต้องการความสะดวกสบาย แม้กระทั่งกิจกรรมง่ายๆ หรือใช้เวลาไม่มาก ไม่ว่าจะเป็นกดสั่งอาหารผ่านแอปพลิเคชันดิลิเวอรี ทั้งที่ร้านอยู่ใกล้แค่ใต้คอนโด สั่งซื้อของจากร้านสะดวกซื้อทั้งที่ร้านอยู่แค่ฝั่งตรงข้าม หรือยอมจ่ายเงินจ้างคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของ ทำธุระ หรือแม้แต่เล่นเกมแทน
LAZY ECONOMY
- Insight
-
นับเป็นเวลากว่า 1 ปีแล้วที่โลกต้องปั่นป่วนวุ่นวายจากการระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้วิถีชีวิตและพฤติกรรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคเปลี่ยนไปจากเดิมมาก จนเกิดเป็นนิยามใหม่ที่เรียกกันติดปากว่า New Normal หรือความปกติใหม่ และกว่าที่โลกจะกลับสู่สภาวะปกตินั้น คงต้องใช้เวลากันอีกสักพักทีเดียว ขณะที่พฤติกรรมบางอย่างก็อาจเปลี่ยนไปตลอดกาล ทำให้แบรนด์ต้องเร่งปรับตัวเพื่ออยู่ให้รอดท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา
- CMMU Insights
“ไม่ได้ขี้เกียจ แค่เสียดายเวลา” รู้จัก Lazy Consumer ผู้บริโภครุ่นใหม่ที่หวงแหนทุกวินาที แม้กระทั่งเวลาแปรงฟัน
by ppby pp“ความขี้เกียจ” ฟังดูอาจเป็นเหมือนพฤติกรรมที่ไม่ดี แต่ในยุคปัจจุบันพฤติกรรมที่ดูคล้ายๆ กับว่าจะเป็นความขี้เกียจนี้อาจจะกลับกลายเป็นโอกาสทางการตลาดอย่างมหาศาล สำหรับผู้ที่เข้าใจอินไซต์ผู้บริโภคกลุ่มนี้ ที่อาจเรียกได้ว่าเป็น “Lazy Consumer” แต่คงจะหมายความว่าเป็นคนขี้เกียจซะทีเดียวอาจจะไม่ถูกนัก แต่เป็นพฤติกรรมของผู้บริโภครุ่นใหม่ที่ชอบความสะดวกสบาย และหันมาพึ่งพาเทคโนโลยีต่างๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น เพราะไม่อยากจะเสียเวลาทำบางสิ่งบางอย่างด้วยตัวเอง