ลอรีอัล กรุ๊ป รายงานตัวเลขผลประกอบการครึ่งปีแรกปี 2567 มีการเติบโตเพิ่มขึ้น 7.3% โดยมียอดขายมูลค่า 2.212 หมื่นล้านยูโร การเติบโตมีความสมดุลระหว่างมูลค่าและปริมาณ ด้วยการผสมผสานระหว่างการวิจัยและนวัตกรรมอันทรงพลังกับความคิดสร้างสรรค์ทางการตลาดที่เป็นเอกลักษณ์ ช่วยให้บริษัทฯ สามารถนำเสนอนวัตกรรมที่ล้ำยุคให้กับผู้บริโภค และตอกย้ำความแข็งแกร่งในฐานะผู้นำในตลาดความงามของโลกที่ยังคงคึกคักอย่างต่อเนื่อง
L’Oreal Group
-
-
ลอรีอัล กรุ๊ป ประกาศผลประกอบการไตรมาสที่ 1 ปี 2564 โดยมียอดขายมูลค่า 7.61 พันล้านยูโร ในอัตราเติบโต 10.2% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว1 แม้ว่าจะต้องเผชิญกับวิกฤตจากโควิด-19 และมาตรการที่เกี่ยวข้องในหลาย ๆ ประเทศ โดยเฉพาะในยุโรปตะวันตก นอกจากนี้ ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซมีการขยายตัว 47.2%2 โดยคิดเป็นสัดส่วน 26.8% ของยอดขาย ซึ่งภาพรวมการเติบโตดังกล่าวดีกว่าตลาดโดยรวมอย่างเห็นได้ชัดเจน และทางบริษัทจะเร่งการเติบโตต่อไป
-
ลอรีอัล กรุ๊ป รายงานผลประกอบการครึ่งปีแรก 2563 เผยตัวเลขโดยยอดขายลอรีอัล กรุ๊ปลดลง -11.7%[1] ซึ่งนับเป็นตัวเลขที่น่าพอใจที่มาจากทั้งการปรับตัวรับวิกฤตอย่างยืดหยุ่นของบริษัทฯ รวมถึงการเป็นผู้นำด้านดิจิทัลและธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ ที่เติบโตสูงมากถึง +64.6%[2] ผลประกอบการของลอรีอัลในประเทศจีนก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญด้วยการเติบโตกว่า +30%[2] ในไตรมาสที่สอง พลังของแบรนด์สินค้าและผลิตภัณฑ์ ที่เป็นตัวช่วยสำคัญให้ลูกค้าก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากไปได้ ทั้งหมดนี้ มาจากความร่วมมือร่วมใจและการทำงานของพนักงานลอรีอัลทั่วโลก ทำให้สามารถสร้างผลประกอบการอันน่าพอใจให้บริษัทฯ ด้วยกำไรถึง +18% ใกล้เคียงกับปี 2019 จำนวนกำไรต่อหุ้นลดลงเพียงเล็กน้อย คงสภาพบัญชีกำไรขาดทุนไว้ได้อย่างมีเสถียรภาพ ด้วยอัตรากำไรขั้นต้นสูงและต้นทุนที่ต่ำ ไปจนถึงคงไว้ซึ่งงบประมาณการลงทุนด้านการวิจัยและการดำเนินธุรกิจในมูลค่าที่สัมพันธ์กัน