ปี 2025 กำลังจะกลายเป็นปีแห่งการลดการบริโภค หรือที่เรียกว่าเทรนด์ “No Buy 2025” เมื่อชาวอเมริกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งวัยรุ่น กำลังรู้สึกว่า “ภาวะเงินเฟ้อ” ที่เกิดจาก “นโยบายกำแพงภาษี’ ของ ประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ กำลังทำให้ราคาสินค้าถีบตัวสูงขึ้น จนพวกเขาบริโภคไม่ไหว จนเป็นที่มาของกระแส No Buy 2025 การท้าทายตนเองโดยหยุดซื้อสินค้าที่ไม่จำเป็นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง ซึ่งมักจะใช้เวลาประมาณ 1 ปี