หลักสูตรนิเทศศาสตร์การตลาด ม.หอการค้าไทย เผยผลวิจัยพบพฤติกรรรมคนไทย กด Like ในFacebook มีนัยยะซ่อนถึง 42 ความหมาย โดยมีความหมายด้านลบ 3 ด้าน ชี้เป็นสังคมไม่แสดงออกทางอารมณ์ชัด แนะนักการตลาดต้องไว-ระวังการตีความ เผยผลการศึกษาการแสดงอารมณ์ผ่านปุ่มสัญลักษณ์ใน Facebook ช่วยนักออกแบบคอนเทนท์เพิ่มการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ (Engagement) หนุน Brand Loyaltyได้
Reactions
-
-
วันสิ้นปีใกล้เข้ามาทุกที ถึงเวลาเตรียมทิ้ง To do list เก่าที่ทำไม่ได้ แล้วเริ่มร่างใหม่สำหรับปีหน้า ตรวจสอบดวงชะตาราศรีเผื่อจะมีโชคดีรออยู่ สำหรับวงการดิจิทัลก็เช่นเดียวกัน วันนี้เรามีคำทำนายทายทักจากผู้เชี่ยวชาญการตลาดดิจิทัลที่เคยทำนายไว้เมื่อปีก่อนซึ่งผลออกมาในปีนี้ค่อนข้างแม่นยำ ในปี 2016 ที่ผ่านมา นับเป็นอีกหนึ่งปีที่มีการเติบโตไปอีกขั้นของเฟซบุ๊ก ท่ามกลางจำนวนผู้ใช้งานปริมาณมหาศาลถึง 197 ล้านคน โดยสิ่งที่ดูเหมือนว่ามาร์ค ซัคเคอร์เบิร์กจะชูโรงให้เป็นดาวเด่นสำหรับปีนี้คงหนีไม่พ้นลูกเล่นวิดีโอทั้งหลาย สำหรับปี 2017 ที่กำลังจะมาถึงนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ผู้เชี่ยวชาญของเราคาดการณ์ไว้ดังนี้
-
Facebook เพิ่งปล่อยฟังก์ชั่นใหม่ที่เรียกว่า “Reactions” หรือปุ่มแสดงอารมณ์แบบต่างๆ ที่มากกว่าแค่ Like แต่มีความรู้สึกเพิ่มขึ้นมาอีกถึง 5 แบบให้เลือกทั้ง Love, HaHa, Sad, Wow และ Angry สำหรับนักการตลาดแล้วนี่หมายถึงการที่ผู้บริโภคจะแสดงออกทางอารมณ์ได้มากขึ้น แต่ปัญหาคือยังไม่มีอะไรมาประเมินคุณภาพของอารมณ์ที่จะถูกแสดงออกมาได้ นี่จึงเป็น 5 ข้อที่นักการตลาดควรคำนึงถึงและเตรียมรับมือ เพื่อนำข้อมูลไปปรับใช้เกี่ยวกับการแสดงออกผ่านปุ่มต่างๆ
- Digital
Reactions เปิดใช้งานแล้วทั่วโลก ต่อไปนี้ คนเล่น Facebook จะแสดงอารมณ์ได้มากกว่าแค่ Like
by Rassarinby Rassarinจากโพสต์ของ Mark Zuckerberg ระบุว่า Facebook ได้เริ่มเปิดให้ผู้ใช้บริการทั่วโลกแสดงความรู้สึกผ่านปุ่ม Reactions ที่ทำให้มีทางเลือกมากขึ้นกว่าแค่ปุ่ม Like โดยข้อความของมาร์ค เขียนว่า “ไม่ใช่ทุกครั้งที่คนแชร์ความรู้สึกที่มีความสุข บางครั้งก็มีการแชร์ความรู้เศร้าหรือหงุดหงิด มีการไต่ถามถึงปุ่ม dislike มานานมากแล้ว แต่ไม่ใช่เพื่อบอกเพื่อนของเราว่าไม่ชอบเรื่องที่โพสต์ แต่เป็นการถึงความรู้สึกเห็นอกเห็นใจ และจะทำให้มีความหลากหลายของการแสดงความรู้สึก”