นับตั้งแต่กรุงเทพฯ มีรถไฟฟ้าบีทีเอสเมื่อปี 2542 ต่อมารถไฟฟ้าใต้ดินเปิดให้บริการในปี 2547 จากวันนั้นที่ยังกระจุกตัวอยู่ใจกลางเมือง วันนี้เส้นทางรถไฟฟ้าเริ่มขยายออกรอบนอกเมือง และคาดการณ์ว่าในปีนี้ กรุงเทพฯ จะมีรถไฟฟ้า 5 สาย 87 สถานี รวมระยะทาง 121.6 กิโลเมตร สิ่งที่มาพร้อมกับการขยายเส้นทางรถไฟฟ้า คือ การเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเมือง และตลาดอสังหาริมทรัพย์ โดยทำเลตามแนวรถไฟฟ้ากลายเป็นทำเลทอง ยิ่งใจกลางเมือง เป็นทำเลทองฝังเพชรที่นับวันราคาที่ดินมีแต่จะพุ่งขึ้นมหาศาล ทั้งยังเปลี่ยนวิถีชีวิต และรูปแบบการอยู่อาศัยของคนในเมือง ให้กลายเป็น “Vertical Living” มากขึ้น …
Vertical Living
-
- Creativity
ไอเดียล้ำ! สถาปนิกฮ่องกงนำ “ท่อน้ำคอนกรีต” มาทำ “บ้าน” แก้วิกฤตที่ดิน-ที่อยู่อาศัยแพง
by WPby WPด้วยความที่ “ฮ่องกง” มีพื้นที่เพียง 1,096.63 ตารางกิโลเมตร หรือขนาดประมาณ 1 ใน 6 ของเมืองเซียงไฮ้ (ข้อมูลจากวิกิพีเดีย) ทำให้การพัฒนาเมืองจำเป็นต้องสร้างในรูปแบบ “Vertical City” หรือเมืองแนวดิ่ง ชีวิตความเป็นอยู่ของคนฮ่องกง โตมากับการอยู่แบบ “Vertical Living” ไม่ว่าจะเป็นคอนโดมิเนียม อพาร์ทเม้นท์ รวมไปถึงตึกเก่าทรุดโทรม ที่ภายในใช้เพียงแผ่นกั้นห้องบางๆ เพื่อแบ่งพื้นที่เท่านั้น และอยู่ในสภาพแออัด ราวกับการอยู่อาศัยในกล่องสี่เหลี่ยมแคบๆ ซึ่งการอยู่ในตึกเก่าทรุดโทรมนี้ เป็นที่อยู่อาศัยของผู้มีรายได้น้อย ท่ามกลางความเจริญศิวิไลซ์ของเมืองฮ่องกง และเป็นหนึ่งในศูนย์กลางธุรกิจสำคัญในภูมิภาคเอเชีย …
-
ปัจจุบันโครงสร้างสังคมไทย มีแนวโน้มเป็น “ครอบครัวเดี่ยว” และ “อยู่คนเดียว” มากขึ้น เห็นได้จากหลายคนเมื่อเข้าสู่วัยทำงาน มีรายได้ของตนเอง ก็แยกจากครอบครัวใหญ่ ออกมาซื้อคอนโดมิเนียมอยู่เอง ประกอบกับ “โลเคชั่น” ของคอนโดมิเนียมโครงการต่างๆ ติดรถไฟฟ้า ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง ส่งผลให้รูปแบบการอยู่อาศัยของคนที่ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ กลายเป็น “Vertical Living” เพิ่มขึ้น
- Brand Move !!
เจาะเบื้องหลัง ‘แสนสิริ’ ปั้นแบรนด์ใหม่ Khun by Yoo เพราะทุกการอยู่ต้องหรู เลิศ และ World Class
by WPby WP“กรุงเทพ” เป็นหนึ่งในมหานครใหญ่ ด้วยประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองไม่ต่ำกว่า 10 ล้านคน ที่นับวันจะมีแต่ความหนาแน่นเพิ่มขึ้น และมีสภาพการจราจรติดขัด แม้ว่าเวลานี้กำลังอยู่ในช่วงการพัฒนาโครงการรถไฟฟ้าสายสีต่างๆ สิ่งที่ตามมาจากนี้คือ วิถีชีวิตความเป็นอยู่ของผู้คนในมหานครแห่งนี้ จะกลายเป็นรูปแบบ “Vertical Living” หรือการอยู่อาศัยในแนวดิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ เพื่อความสะดวกในการเดินทาง ไม่ต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงติดอยู่บนถนน