walmart

  วอลมาร์ท (Walmart) แบรนด์ค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกานำร่องชุดพนักงานแนวใหม่ มาพร้อม “กล้อง” สำหรับถ่ายภาพเหตุการณ์ภายในร้าน โดยในตอนนี้ Walmart ไม่ได้ระบุชัดเจนว่า มีร้านสาขาจำนวนเท่าไรที่เปิดให้พนักงานสวมชุดดังกล่าว แต่จะมีการขึ้นป้ายเตือนผู้ซื้อเอาไว้ที่ด้านหน้า

นอกจาก Disney ที่ปิดแผนก Metaverse และเลย์ออฟพนักงานราว 50 คนออกไปก่อนหน้านี้ ล่าสุดมีรายงานว่า Walmart ยักษ์ใหญ่ค้าปลีกสัญชาติอเมริกันก็ตัดสินใจยกเลิกแผน Metaverse ของตนเองแล้วเช่นกัน โดยเป็นการประกาศปิด “Universe of Play” ซึ่งเป็นพื้นที่สร้างประสบการณ์ Metaverse บนแพลตฟอร์ม Roblox หลังจากเปิดพื้นที่ดังกล่าวมาได้เพียง 6 เดือนเท่านั้น

การส่งสินค้าแบบ Same-Day Delivery ที่หลายคนฝันว่าอยากให้มี “โดรน” มาส่งของให้ถึงบ้านแบบด่วน ๆ ตอนนี้ชาวอเมริกันราว 4 ล้านคนใน 6 รัฐกำลังจะได้รับสิทธินั้นแล้ว เพราะวอลมาร์ท (Walmart) จับมือกับ DroneUp (บริษัทที่วอลมาร์ทไปลงทุน) ตั้งเป้าส่งสินค้าถึงหน้าบ้านภายใน 30 นาทีด้วยโดรน โดยคิดค่าบริการความด่วน 3.99 เหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 136 บาท

จองจริง ซื้อจริง และจะได้ใช้จริงแล้ว? Ramon Laguarta ผู้บริหาร PepsiCo ในฐานะผู้ซื้อรายใหญ่ของ Tesla Semi รถบรรทุกไฟฟ้าที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2017 เตรียมแผนนำรถบรรทุกไฟฟ้ามาใช้ส่งเครื่องดื่ม – ขนมขบเคี้ยวของบริษัทอย่างเป็นทางการ โดยคาดว่าจะเริ่มเห็น PepsiCo ใช้รถบรรทุกไฟฟ้าในไตรมาสที่ 4 นี้เป็นต้นไป

แม้ว่าตอนนี้ราคา Bitcoin จะลดความร้อนแรงลงมาเล็กน้อย แต่ในต่างประเทศดูเหมือนว่าเงินคริปโตจะกลายเป็นสิ่งที่แบรนด์ต่าง ๆ ให้ความสนใจมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง และ Walmart ก็คือแบรนด์ล่าสุดที่ตัดสินใจเปิดตัวตู้ ATM สำหรับซื้อขาย Bitcoin แล้วถึง 200 จุด

การแข่งขันอุตสาหกรรม E-commerce นับวันจะรุนแรงยิ่งขึ้น และกลายเป็นช่องทางการซื้อขายหลักของผู้คนทั่วโลกแล้ว รวมทั้งในไทย ยิ่งการเกิด COVID-19 เป็นปัจจัยเร่งให้ช่องทางออนไลน์ขยายตัวหลายเท่า “KKP Research” โดยกลุ่มการเงินเกียรตินาคินภัทร ออกบทวิเคราะห์ “ตีแผ่สมรภูมิ E-Commerce ไทย ตรงไหนคือโอกาส” สรุปออกมาเป็น 7 ข้อดังนี้ 1. E-commerce ในไทยจะขยายตัว 20% ต่อปีใน 5 ปีข้างหน้า เพิ่มขึ้นจากระดับ 3 แสนล้านบาท เป็น …

แอปเปิล สโตร์ (Apple Store) ในสหรัฐอเมริกา เตรียมอนุญาตให้คนที่ฉีดวัคซีน Covid-19 แล้ว ไม่ต้องสวมหน้ากากอนามัยเข้าร้านอีกต่อไป รวมถึงเริ่มผ่อนปรนมาตรการ Physical Distancing คาดว่าจะเริ่มได้ในสัปดาห์หน้า

แบรนด์ดังในสหรัฐอเมริกาออกมาช่วยรัฐบาล “โจ ไบเดน” พิชิตไวรัส Covid-19 กันมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยล่าสุดเป็น กูเกิล (Google) ที่ออกมาประกาศว่าจะแบ่งอาคาร ลานจอดรถ และพื้นที่ส่วนที่ยังว่างอยู่ของบริษัทให้กับหน่วยงานด้านสาธารณสุขเพื่อใช้เป็นคลินิคสำหรับการฉีดวัคซีน หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีบริษัทยักษ์ใหญ่อย่างดิสนีย์ (Disney) แอมะซอน (Amazon) และสตาร์บัคส์ (Starbucks) ออกมาให้ความช่วยเหลือไปก่อนแล้ว

หลังจากที่วอลมาร์ท (Walmart) จับมือสตาร์ทอัพสายรถอัตโนมัติ Gatik เปิดทดสอบการส่งสินค้าแบบไร้คนขับมาตั้งแต่เมื่อปี 2019 ตอนนี้ดูเหมือนว่า บริการดังกล่าวจะพร้อมแล้วสำหรับการทดลองวิ่งจริง ๆ แบบไม่มีพนักงานนั่งหลังพวงมาลัยบนท้องถนน

กลายเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพในยุค Covid-19 สำหรับการยกเลิกทดสอบหุ่นยนต์เช็คสต็อกของค่ายบอสซาโนวา โรโบติกส์ (Bossa Nova Robotics) กับห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่วอลมาร์ท (Walmart) เมื่อไม่นานมานี้ เมื่อวอลมาร์ทให้เหตุผลว่าพนักงานมนุษย์ก็ยังสามารถทำงานได้ดี จึงไม่จำเป็นต้องจ้างหุ่นยนต์อีกต่อไป ซึ่งการยกเลิกสัญญาครั้งนี้ส่งผลให้ทางบอสซาโนวา โรโบติกส์ ต้องเลย์ออฟพนักงานไปถึง 50% เลยทีเดียว

เป็นตัวเลขที่ไม่น้อยเลยทีเดียว สำหรับพนักงาน Amazon ที่พบว่าติดเชื้อไวรัส Covid-19 ในระหว่างวันที่ 1 มีนาคม – 19 กันยายน ที่มีจำนวนถึง 19,816 คน แม้ว่าจะคิดเป็นอัตราส่วนเพียง 1.44% ของพนักงาน Amazon และ Whole Foods ทั้งหมด 1.37 ล้านคน แต่ก็ทำให้บริษัทถูกตั้งคำถามถึงเรื่องการดูแลความปลอดภัยให้กับพนักงานที่ “ไม่เพียงพอ”

  ปี 2020 อาจเป็นปีที่ร้ายแรงสำหรับหลายต่อหลายแบรนด์ที่ต้องล้มหายตายจากกันไป แต่ไม่ใช่สำหรับ Elon Musk เพราะปี 2020 เป็นปีที่ความมั่งคั่งของเขาเพิ่มขึ้นมาถึง 76,100 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือประมาณ 2,357,463 ล้านบาท และตัวเลขนี้ทำให้ความร่ำรวยของ Elon Musk แซงหน้า Mark Zuckerberg เจ้าพ่อ Facebook ไปแล้วขาดลอย

Microsoft มีพาร์ทเนอร์เพิ่มอีกราย หลังมีรายงานว่า ค่าย Walmart ตัดสินใจร่วมมือกับ Microsoft ในการซื้อกิจการของ TikTok ด้วยแล้ว ทั้งนี้คาดว่าจะมีการประกาศความสำเร็จในดีลดังกล่าวในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ด้วย

ต้องบอกว่า ท่ามกลางการแพร่ระบาดของไวรัส Covid-19 ที่ทำให้นักลงทุนต่างกังวลกับผลประกอบการของบริษัทต่าง ๆ ทว่า มีบริษัทหนึ่งที่นักลงทุนรู้สึกไม่กังวลมากนัก นั่นคือ Amazon เห็นได้จากการเติบโตของมูลค่าบริษัทที่มีการทำลายสถิติอีกครั้งเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กับตัวเลขมูลค่ารวม 1.14 ล้านล้านเหรียญสหรัฐ

ปัจจุบันอีคอมเมิร์ซมีธุรกรรมระหว่างผู้ซื้อและผู้ขายมากขึ้น ทำให้เจ้าของแพลตฟอร์ม สามารถวิเคราะห์ความต้องการซื้อสินค้าของผู้บริโภคได้โดยตรง เจ้าของแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในปัจจุบันนี้ จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการแพลตฟอร์ม หรือทำหน้าที่เป็นเพียงแค่ผู้ให้บริการด้าน Marketplace แบบเดิมๆ แต่เพียงอย่างเดียวอีกต่อไป เพราะข้อได้เปรียบทางด้านการมีฐานข้อมูลการจับจ่ายของผู้บริโภค ทำให้สามารถผลิตสินค้าที่เป็นที่นิยมออกมาจำหน่ายให้กับลูกค้าโดยตรงบนแพลตฟอร์มของตนเองได้ รวมถึงขยายไปสู่การมีหน้าร้านขายสินค้าเหล่านั้นแบบออฟไลน์เพิ่มเข้ามาอีกด้วย

ในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมานี้ เราอาจเคยได้ยินประโยคที่ว่า ธุรกิจค้าปลีกจะนำหุ่นยนต์เข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานกันอยู่บ่อย ๆ แต่ภาพเหล่านั้นน่าจะชัดเจนขึ้นแล้วในปี 2019 เมื่อเชนค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกาหลาย ๆ เจ้าตัดสินใจเปิดตัวหุ่นยนต์ช่วยงานในห้างของตัวเองกันแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Giant Eagle, Walmart, Kroger, Lowe และ Target

การอยู่ในสังคมเมือง บางทีเป็นเรื่องยากที่เราจะเปิดใจให้ใครที่ไม่รู้จักมักคุ้นก้าวย่างเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวเช่น “บ้าน” แต่ Walmart กำลังจะทลายกำแพงนั้น ด้วยการเปิดตัวบริการ InHome Grocery Delivery บริการส่งของสดที่ไม่ส่งแต่สินค้าอย่างเดียว แต่จะส่งทีมงานเข้ามาช่วยจัดของสดนั้นให้ถึงในตู้เย็นของบ้านด้วย

  มีหุ่นยนต์ก็ต้องใช้ แต่ดูเหมือนว่าการนำหุ่นยนต์มาใช้ของ Pizza Hut ในครั้งนี้จะเริ่มกระทบต่อตำแหน่งงานของเรา ๆ ท่าน ๆ เสียแล้ว โดยมีรายงานว่า Pizza Hut ได้ร่วมมือกับทาง FedEx เตรียมนำหุ่นยนต์เดลิเวอรี่ “SameDay Bot” ลงทดสอบการส่งพิซซ่าในเมืองเมมฟิส รัฐเทนเนสซี สหรัฐอเมริกา ในช่วงซัมเมอร์นี้แล้ว

แม้จะอายุแค่เจ็ดขวบ แต่ Ryan จาก “Ryan ToysReview” เจ้าพ่อวงการรีวิวของเล่นเด็กกลับมีรายได้ที่หลายคนอิจฉา โดยมีการเปิดเผยจาก Forbes ระบุว่า ช่องดังกล่าวทำรายได้จากค่าโฆษณา และค่าลิขสิทธิ์ในปี 2018 ไปถึง 22 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 688 ล้านบาท) และกำลังจะมีรายการทีวีเป็นของตัวเองแล้วทาง “Nick Jr.” ช่องสำหรับเด็กของค่าย Nickelodeon

ปี 2018 มีการปรับเปลี่ยน เปลี่ยนแปลง และการก้าวหน้าของเทคโนโลยีเพื่อการซื้อขายมากมาย ส่งผลให้ในปี 2019 นี้ พฤติกรรมหลายอย่างของผู้บริโภครวมทั้งการทำตลาดทั่วโลกจะมีการปรับตาม และเพื่อให้แบรนด์รู้ทันถึงสิ่งต่างๆ ที่จะทำให้โลกแห่งการช้อปก้าวไปข้างหน้าเพื่อให้เตรียมรับได้ทัน วันนี้เรามีการคาดการณ์ล่วงหน้าถึงแนวโน้มบางอย่างมาเล่าให้ฟัง ลองมาดูกันว่าความเปลี่ยนแปลงประเด็นใดบ้าง ที่จะมีบทบาทสำคัญในวงการค้าปลีกและอุตสาหกรรมช้อปปิ้งในปี 2019

อุปสรรคใหญ่อย่างหนึ่งของการสั่งซื้อของออนไลน์  คือเมื่อของมาส่งที่บ้านในวันทำงานและไม่มีใครอยู่รับของ    ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการหาทางออก โดยให้ผู้ซื้อไปรับของ ณ ที่อื่น ในเวลาหลังเลิกงาน เช่น ช็อปพิเศษตามสถานีรถไฟฟ้า หรือร้านสะดวกซื้อ หรือรับของวันหยุด ณ สาขาไปรษณีย์ตามห้าง ฯลฯ

Walmart กำลังทดสอบการให้บริการจัดส่งสินค้าของชำ บริการส่งโดย Uber ตอนนี้พุ่งเป้าไปที่การเข้าตลาดใหม่สองแห่งคือ Dallas และ Orlando ผู้บริโภคสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ จากนั้นเลือกที่จะให้มาส่งที่บ้านได้ โดยมีค่าธธรรมเนียมเพิ่ม 9.95 เหรียญ

Brand Finance Global 500 ในปี 2017 ได้เผยแบรนด์ที่มีมูลค่าสูงสุดทั่วโลก โดยในปีนี้ “Google” ขึ้นนำเป็นอันดับหนึ่ง ด้วยมูลค่าแบรนด์ 109,470 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 24% แซงหน้า “Apple” ร่วงไปอยู่อันดับ 2 ด้วยมูลค่าแบรนด์ 107,141 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ลดลง 27% จากปีก่อน นับเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ที่ผู้ผลิตสมาร์ทโฟน iPhone …

ทุกวันนี้ ธุรกิจค้าปลีก (Retail) ปัจจัยด้านโลเคชั่นและขนาดของพื้นที่คงจะไม่ใช่ข้อได้เปรียบในการแข่งขันด้านธุรกิจอีกต่อไป  เพราะผู้บริโภคปัจจุบันสามารถเข้าถึงสินค้าได้จากโลกออนไลน์บวกกับความต้องการผู้บริโภคที่มีมากล้น จนไม่สามารถวางบน  Shelf ได้อีกต่อไปเสียแล้ว ดังนั้นไม่ว่าจะเป็นห้างสรรพสินค้า ศูนย์การค้า หรือ แบรนด์ คงต้องตั้งคิดว่าจะปรับตัวอย่างไร ถึงก้าวทันผู้บริโภคเหล่านี้ได้  BrandBuffet พามาชมตัวอย่างการปรับตัว หรือลูกเล่นของ Retail ในรูปแบบใหม่ๆ  จาก  Retail Trends 2017 โดย เอ็นไวโรเซล (ไทยแลนด์) หน่วยงานด้านวิจัยพฤติกรรมผู้บริโภคสำหรับสื่อสารการตลาด ในเครือของบริษัท  อินเด็กซ์ ครีเอทีฟ วิลเลจ …

วงการค้าปลีกแบบโมเดิร์นเทรดกำลัง “หิวเทคโนโลยี” อย่างมาก  ดูได้จากล่าสุดที่ Walmart ร้านค้าปลีกเครือข่ายยักษ์ใหญ่ในสหรัฐอเมริกา ประกาศตั้งโครงการ “Store No. 8” บ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ (Startups Incubator)

  เมื่อเอ่ยถึงยักษ์ใหญ่ในยุทธจักรค้าปลีกระดับโลก ต้องยกให้กับ “Walmart” ที่มีต้นกำเนิดในสหรัฐฯ เมื่อ 55 ปีที่แล้ว ด้วยจุดขาย “กลยุทธ์ราคา” กระทั่งสามารถขยายอาณาจักรออกไปทั่วโลกกว่า 20 ประเทศ มีสาขารวมกันกว่า 11,000 แห่ง มีลูกค้าไม่ต่ำกว่า 260 ล้านคนต่อปี ยิ่งใหญ่จนไม่มีใครคาดคิดจะมีผู้ใดกล้ามาท้าทายยักษ์ใหญ่รายนี้…แต่เมื่อโลกเข้าสู่ยุคดิจิทัลเต็มรูปแบบ ทำให้ Walmart ไม่เพียงแต่เผชิญกับคู่แข่งที่เป็น Brick-and-mortar ด้วยกันเองเท่านั้น หากแต่ยังต้องเจอกับคู่แข่ง E-Commerce เช่น Amazon.com ที่เริ่มจากร้านขายหนังสือออนไลน์ …

    เมื่อสองเดือนที่ผ่านมา ภาพ Selfie ของ Ellen DeGeneres กับเหล่าดาราฮอลลี่ฮู๊ด  ที่ทำลายสถิติเป็นรูปที่มีคน Tweet หรือแชร์ต่อมากที่สุดในโลก  แต่ล่าสุดมีภาพ Selfie ที่ต้องเรียกว่ารวมเหล่านักธุรกิจบริษัทชั้นนำแถวหน้าของโลกเอาไว้  8 คน ถ่ายในงาน Walmart’s Sustainability Product Expo เมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา  น่าจะเรียกว่าเป็นภาพ Selfie มูลค่าสูงมากที่สุด  หากนับรวมมูลค่ากิจการในตลาดของแต่ละผู้นำแล้วมีมูลค่าสูงถึง  1.07 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ