WeTV

AIS เล่นใหญ่ เปิดแพก PLAY ULTIMATE มัดรวม “NETFLIX – Max – Disney+ Hotstar – iQIYI – VIU – WeTV” จ่ายราคาเดียว 999 บาทต่อเดือน

รายการไอดอลเซอร์ไววัล“CHUANG ASIA THAILAND” (ช่วง เอเชีย ไทยแลนด์) สร้างปรากฏการณ์ความบันเทิงระดับอินเตอร์ โดยตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2567 ที่รายการออนแอร์ (รวม 3 เดือน) ได้รับการกล่าวถึงในโลกออนไลน์ถึงกระแสความดังและความสามารถของเด็กฝึก ล่าสุดรายการเดินทางมาถึงรอบสุดท้าย โดยเด็กฝึกผู้ที่คว้าชัยชนะทั้ง 9 คน ได้แก่ เฉี่ยวอี้หยู (QIAO YI YU), รุอัน (RUAN), ไผ่หลิว (PAILIU), ยีน (YEAN), อีลีน (ELYN), หวัง เค่อ (WANG KE), เสวี่ยเหยา (XUEYAO), ตีตี้ (DIDI) และ เอ็มม่า (EMMA) เตรียมก้าวสู่การเป็นศิลปินเต็มตัวในฐานะอินเตอร์เนชันแนลเกิร์ลกรุ๊ปวงใหม่ ภายใต้ชื่อ ‘Gen1es’ (จีนีส์) เผยกระแสตอบรับจากแฟนรายการทั่วโลกดีต่อเนื่องจนถึงรอบไฟนอล การันตีได้จากการร่วมโหวตผ่านทางแอปพลิเคชัน WeTV โดยท็อป 9 ได้รับการโหวตรอบสุดท้ายจากแฟนๆ รวมกว่า 500 ล้านคะแนน รวมถึงแฮชแท็กรายการ CHUANGASIA ติดเทรนด์ X อันดับ 1 ในไทยและ #CHUANGAsiaGrandDebutNight มีการถูกพูดถึงมากกว่า 1 ล้านครั้ง

  WeTV ผู้นำแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิงที่สุดความบันเทิงคุณภาพแห่งเอเชีย เดินหน้าสร้างประสบการณ์ให้ผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดจับมือกับ BMN เปิดตัวเป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ด้านสื่อโฆษณา OOH เสิร์ฟคอนเทนต์ เรือธงอย่าง “CHUANG ASIA” (ช่วง เอเชีย) รายการไอดอลเซอร์ไววัล เมกะโปรเจกต์ระดับอินเตอร์ ที่ได้ 5 เมนเทอร์ชื่อดังของโลกมาร่วมสร้างสีสันความบันเทิงเต็มรูปแบบ โดยนำเสนอคอนเทนต์แบบเอ็กซ์คลูซีฟ ของเด็กฝึกมากความสามารถทั้ง 70 คน ครอบคลุมสื่อในช่องทางต่างๆ รวมถึงได้มีการใช้สื่อโฆษณา OOH ทั้งในรูปแบบดิจิทัลและแบบ Static ในพื้นที่ระบบรถไฟฟ้า MRT …

“WeTV” ประกาศแผนธุรกิจปี 2024 หวังสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืนด้วย 2 กลยุทธ์หลัก ได้แก่ การผลิตออริจินัลคอนเทนต์ หรือ WeTV ORIGINAL และกลยุทธ์ด้านการสร้างประสบการณ์ (Enrich Touchpoint) ทั้งการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ให้กับผู้ใช้งานและฟีเจอร์สำหรับนักโฆษณา

เป็นอีกยุคที่แอปพลิเคชันด้านสตรีมมิ่งมีการเติบโตสูง เห็นได้จากข้อมูลของ Contentgrip ที่พบว่า ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีผู้ใช้เวลารับชมคอนเทนต์ในลักษณะดังกล่าวมากถึง 180 ล้านคน หรือคิดเป็น 31% ของประชากร โดยมีการรับชมเฉลี่ย 150 นาทีต่อวัน และในช่วง Covid-19 ระบาด Contentgrip ก็พบว่าการรับชม OTT เพิ่มขึ้นถึง 57% เลยทีเดียว

นอกจากสถานการณ์โควิด-19 ที่ส่งผลกระทบกับธุรกิจแล้ว ในปี 2563 กลุ่มบีอีซี ยังต้องเจอกับการปรับโครงสร้างในองค์กร เปลี่ยนตัวแม่ทัพจาก “อริยะ พนมยงค์” เป็น “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” ลูกหม้อคนเดิม ที่มากับวิชั่น “ช่อง 3” เป็นมากกว่าทีวี กับกลยุทธ์สร้างคอนเทนต์หารายได้ในทุกช่องทาง ด้วยกลยุทธ์ Single Content Multiple Platform ที่เริ่มเห็นสัญญาณบวก เมื่อตัวเลขขาดทุนลดลง

ครั้งแรกละคร “ช่อง 3” เรื่อง “ร้อยเล่ห์มารยา” ขึ้นสตรีมมิ่งออนไลน์ออกอากาศแบบคู่ขนานในตลาดละครต่างประเทศ 8 ประเทศ แปลเป็นภาษาท้องถิ่น 6 ภาษา

สถานการณ์โควิด-19 กระทบอุตสาหกรรมภาพยนตร์อย่างมาก ทั้งการล็อกดาวน์และไม่มีหนังใหม่เข้าฉาย ตั้งแต่เดือนมีนาคม-กรกฎาคม  แม้ประเทศไทยกลับมาปกติแล้ว แต่สหรัฐฯ ยังคงมีการระบาดอยู่ ทำให้ปีนี้หนังฟอร์มยักษ์ฝั่งฮอลีวู้ดต้องเลื่อนฉาย ภาพรวมรายได้หนังจาก 4,000-5,000 ล้านบาท ปีนี้คงได้เห็นแค่ 1,000 ล้านบาทเท่านั้น

ปี 2562 เป็นอีกปีที่ “หนังไทย” ยังอยู่ในอาการซบเซา แม้มีจำนวน 45 เรื่องต่อปีไม่ลดลง รายได้กลับสวนทาง ติดลบ 14% เมื่อเทียบปีก่อนหน้า แต่ GDH เจ้าตลาดหนังไทยสาย Feel Good ยังทำผลงานได้ดีกับการสร้างสถิติกวาด 3 อันดับแรกหนังทำเงินสูงสุด ย้ำหนังไทยวันนี้มีสูตรเดียวต้อง “ทำหนังที่คนอยากดู”  

มานั่งเป็นแม่ทัพ BEC World เกือบครบปี วันนี้ “บี๋ อริยะ พนมยงค์” ประกาศเป้าหมาย “ช่อง 3” ชัดเจนว่าต้อง Beyond TV ทรานส์ฟอร์มจากธุรกิจสื่อที่มีแต่ “ทรงกับทรุด” ไปสู่น่านน้ำใหม่ ใช้คอนเทนต์นำ กับ 6 กลยุทธ์ สร้างโอกาสธุรกิจใหม่ ไฮไลต์ด้วย “คอมเมิร์ซ” กระจายความเสี่ยง “ทีวี” ที่กระแส Disrupt ยังไม่สิ้นสุดลงง่ายๆ

Tencent (เทนเซ็นต์) ถือเป็นยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีที่มีความแข็งแกร่งด้านแพลตฟอร์มดิจิทัลและโซลูชั่นจากแดนมังกร โปรดักท์ที่ให้บริการในไทยเจาะตรงกลุ่มผู้บริโภค (B2C) เริ่มจาก News & Portal แบรนด์ Sanook ขยายต่อสู่กลุ่มบันเทิงเพลงและหนัง JOOX และ  WeTV  ในฝั่งธุรกิจ B2B เปิดตัวเซอร์วิสด้วยระบบ AI และ Cloud ซึ่งเป็นเทรนด์เทคโนโลยี ผลักดันวิชั่น Tencent 2020 ก้าวสู่  Content Beyond App 

ปักหมุดตลาดคอนเทนต์ไทยอย่างเป็นทางการแล้วสำหรับ Tencent กับการเปิดตัวแพลตฟอร์มวิดีโอสตรีมมิ่ง “WeTV” ที่ทางค่ายระบุว่าเป็นการบุกตลาดเอนเตอร์เทนเมนต์นอกเมืองจีนครั้งแรก โดยความน่าสนใจก็คือ แม้จะเปิดตัวในช่วงกลางปี แต่ทีมบริหารก็หมายมั่นปั้นมือ ตั้งเป้าขอเป็น Top3 ของแพลตฟอร์ม OTT ไทยในปีนี้กันเลยทีเดียว (วัดเฉพาะตัวเลข Paid Subscriber) ส่วนในปีหน้า WeTV ก็มีแผนจะผลิต Original Content สำหรับตลาดไทยไตรมาสละ 2 เรื่อง รวมถึงจะมีการผลิตเพื่อส่งออกไปยังประเทศจีนด้วย